มาดูพัฒนาการของ 10 เทคโนโลยีตั้งแต่อดีต ปัจจุบันเป็นอย่างไร?

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นวัตกรรมที่ถูกคิดค้นขึ้นมาก็ได้มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ทำให้เทคโนโลยีแต่ละอย่างที่ถูกคิดค้นขึ้นมานั้นมีความน่าใช้งานมาก โดยเฉพาะใน Technology หลายๆ อย่างที่เมื่อเทียบกับของเดิมจากอดีต เรียกได้ว่าพัฒนามาไกลจบแทบจะมีความแตกต่างจากของดั้งเดิมมากเลยทีเดียว และในวันนี้เราจะพาทุกไปเปรียบเทียบสิ่งเหล่านี้ จากของต้นแบบ และของในปัจจุบันกันครับ

สำหรับการพัฒนาของ Technology ในแต่ละยุคนั้น ก็เพื่อให้ผู้ใช้งานอย่างเราสามารถใช้งานสิ่งต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และเป็นการสร้างมาตรฐานการออกแบบของเทคโนโลยีในยุคนั้นๆ ให้มีรูปแบบที่คล้ายกันหรือดีกว่า และเมื่อเวลาผ่านไป ก็จะมีสิ่งที่ดีกว่าออกมาทดแทนของเดิม ซึ่งจะทำให้ Technology นั้นดีขึ้นในหลายๆ ด้าน เช่น สมรรถนะการใช้งานดีขึ้น มีขนาดที่เล็กลง หรือสามารถนำติดต่อไปไหนมาไหนได้ง่ายขึ้น

เทคโนโลยีจากอดีต ปัจจุบันพัฒนาเป็นอย่างไรบ้าง

สำหรับเทคโนโลยีจากอดีต ที่ในปัจจุบันมีการพัฒนาที่ทำแต่ละ Technology นั้นมีความสามารถเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในแต่ละอย่างจะมีการพัฒนาอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลยครับ

คอมพิวเตอร์

อดีต : คอมพิวเตอร์ในอดีตจะมีขนาดที่ใหญ่มากๆ และมีน้ำหนักที่เยอะ รวมถึงขนาดของตัวอุปกรณ์หน้าจอที่มีความหนา แต่จอแสดงผลเล็ก ไม่ใหญ่มากนัก หากเป็นคอมพิวเตอร์แบบพกพาก็จะมีน้ำหนักมาก และมีความหนามากเลยทีเดียว โดยถ้าเทียบกับตอนนี้หลายๆ คนก็คงจะแบกไม่ไหว

ปัจจุบัน : ปัจจุบันคอมพิวเตอร์มีขนาดที่เล็กลงมากๆ โดยเล็กที่สุดเรียกได้ว่ามีขนาดที่ใหญ่กว่าฝ่ามือของผู้ใหญ่แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น รวมถึงน้ำหนักก็เบาลงทั้งคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและแบบพกพา แบบพกพานั้นมีขนาดที่เล็กลงมากๆ รวมถึงหน้าจอที่ดีขึ้น และตัวเครื่องที่บางเฉียบ ขนาดของหน้าจอก็มีความใหญ่มากขึ้น แต่มีน้ำหนักและขอบที่บางลงเช่นกัน

โทรศัพท์

อดีต : ในอดีตจะเป็นโทรศัพท์แบบตั้งโต๊ะและโทรศัพท์ตู้แบบสาธารณะ มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ต้องต่อสายโทรศัพท์เพื่อให้ใช้งานได้ และการโทรก็จะใช้การหมุนแป้นหมายเลขหรือกดปุ่มตัวเลข (แล้วแต่รุ่น) ส่วนของการใช้งานก็สามารถใช้ได้แค่อยู่กับที่เท่านั้น ไม่สามารถเดินคุยได้ทั่วไป ค่าโทรจะค่อนข้างแพงกว่าปัจจุบันมาก

ปัจจุบัน : โทรศัพท์บ้านได้รับความนิยมน้อยลง สมาร์ทโฟนได้รับความนิยมมาก โดยมีขนาดที่เล็กลง รูปทรงสี่เหลี่ยม มีหน้าจอสัมผัส และน้ำหนักเบา สามารถพกพาได้สะดวก สามารถสนทนาที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องต่อสายโทรศัพท์ รับสัญญาณแบบไร้สาย ราคาค่าโทรถูกลง

หูฟัง

อดีต : หูฟังจะมีขนาดที่ใหญ่และน้ำหนักที่มากพอสมควร ทำให้การสวมใส่และการพกพาไม่สะดวกนัก รวมถึงยังใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ผ่านสายเพียงอย่างเดียว และถูกใช้งานในกลุ่มจำกัด ไม่ได้มีใช้งานกันทั่วไป

ปัจจุบัน : หูฟังมีขนาดที่เล็กมาก สามารถพกพาได้สะดวก และมีหลายรูปแบบ ทั้งแบบสอดหู และแบบครอบหู ที่สามารถเลือกใช้งานได้ตามความชอบ การเชื่อมต่อมีให้เลือกทั้งแบบเสียบสาย และไร้สายผ่าน Bluetooth มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในทุกวงการและทุกเพศทุกวัย

กล้องถ่ายรูป

อดีต : กล้องถ่ายภาพมีขนาดใหญ่ ใช้ฟิล์มเป็นตัวบันทึกภาพ และต้องตั้งกล้องรอเพื่อให้พร้อมถ่ายรูป ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณหนึ่ง เมื่อถ่ายภาพเสร็จต้องนำฟิล์มไปล้าง ซึ่งกินเวลาหลายวัน คุณภาพของภาพถ่ายก็จะมีความคมชัดบางไม่ชัดบ้าง ถ้าสภาพแวดล้อมมืดภาพจะไม่ค่อยสว่างและเห็นรายละเอียดน้อย

ปัจจุบัน : กล้องถ่ายภาพถูกใส่เข้าไปในสมาร์ทโฟน ทำให้มีทางเลือกทั้งกล้องแบบ Full Frame กล้องคอมแพค กล้อง Mirrorless กล้องฟิล์ม และกล้องบนสมาร์ทโฟน การพกพานั้นก็ทำได้สะดวกมากขึ้น ส่วนการถ่ายก็สามารถยกขึ้นมาแล้วถ่ายได้ตลอดเวลา ภาพจะถูกบันทึกลงในการ์ดหน่วยความจำ คุณภาพนั้นดีมากขึ้น และสามารถปรับแต่งได้ด้วยโปรแกรมเสริมต่างๆ ตามใจชอบ

เครื่องยนต์

อดีต : เครื่องยนต์ในอดีตจะมีขนาดที่แปรผันตรงกับแรงขับ หรือเรียกง่ายๆ ว่า ยิ่งเครื่องยนต์ใหญ่ยิ่งแรง ดีไซน์ของรถก็จะค่อนข้างมีความเทอะทะ และรถส่วนมากจะไม่ติดเครื่องปรับอากาศมาให้ กระจกเป็นแบบหมุน เกียร์ก็จะต้องควบคุมเอง ความเร็วที่ได้ก็ยังไม่สูงมากนัก

ปัจจุบัน : เครื่องยนต์มีขนาดที่เล็กลงมากๆ โดยมีความแรงที่เพิ่มมากขึ้น ประหยัดน้ำมันมากขึ้น เกียร์เป็นแบบออโต้ที่บางครั้งไม่ต้องควบคุมเอง เครื่องยนต์รองรับทั้งน้ำมันและไฟฟ้า ความเร็วสามารถพุ่งได้สูงสุดสองร้อยกว่ากิโลเมตร มีระบบต่างๆ ที่เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ กระจกข้างเป็นแบบไฟฟ้า สามารถกดสวิตช์เพื่อเปิดหรือปิด การปลดล็อครถสามารถทำได้ทั้งรีโมทระยะไกล และกุญแจ

เม้าส์

อดีต : วัสดุเป็นพลาสติด ซึ่งส่วนมากจะมีสีขาว มีฟังก์ชั่นเพียงแค่คลิกซ้าย คลิกขวา และ Scroll เท่านั้น โดยเชื่อมต่อผ่านสายที่ต่อตรงมาจากคอมพิวเตอร์ ด้านในใช้ตัวจับการเคลื่อนไหวของลูกกลิ้งในการกำหนดการเคลื่อนไหวของเคอร์เซอร์บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ทำให้ต้องถอดลูกกลิ้งออกมาทำความสะอาดบ่อยๆ เพราะเมื่อสกปรกจะใช้งานได้ไม่ดีนัก

ปัจจุบัน : เม้าส์นั้นมีทั้งแบบมีสายและไร้สายซึ่งจะใช้การเชื่อมต่อทั้งแบบ Bluetooth และตัวรับสัญญาณ USB ตัวจับการเคลื่อนไหวจะเปลี่ยนเป็นการใช้เลเซอร์หรือแสง LED ซึ่งให้ความแม่นยำที่ดีกว่า และมีเม้าส์แบบพิเศษ เช่น เม้าส์สำหรับการเล่นเกม ที่มีฟังก์ชั่นมากกว่าเดิม รูปทรงส่วนมากยังคงคล้ายแบบเดิม แต่น้ำหนักจะเบาลง

ที่เก็บข้อมูล

อดีต : ในอดีตจะมีการบันทึกข้อมูลคอมพิวเตอร์ลงในม้วนแถบแม่เหล็ก และสามารถบันทึกข้อมูลได้อย่างจำกัดเพียงไม่กี่ MB เท่านั้น ยุคถัดมาจึงกลายเป็นที่เก็บข้อมูลแบบ Hard Disk ที่สามารถเก็บข้อมูลได้เยอะขึ้น โดยมีความเร็วในระดับกลางๆ หากเทียบกับปัจจุบัน

ปัจจุบัน : ยังมีการใช้หน่วยความจำแบบ Hard Disk อยู่ แต่ที่เก็บข้อมูลแบบ SSD เริ่มได้รับความนิยมมากกว่า เพราะมีความเร็วสูง และขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ทำให้เมื่อนำมาใส่ในคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊ก อุปกรณ์จะมีน้ำหนักที่เบาลงและประสิทธิภาพโดยรวมที่ดีมากขึ้น ความจุในปัจจุบันก็เยอะมาก สูงสุดในระดับ TB (>1000 GB) เลยทีเดียว

วิทยุ

อดีต : วิทยุเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมมาก ใช้สำหรับฟังข่าวสาร ฟังเพลง ซึ่งเป็นช่องทางหลักในการติดตามข่าวสารและอัพเดทเพลงใหม่เลยก็ว่าได้ ขนาดของวิทยุในอดีตจะมีขนาดใหญ่ และต้องเสียบปลั๊กไฟเพื่อใช้งาน และไม่นิยมพกพาออกไปนอกสถานที่เพราะไม่สะดวก รับสัญญาณได้ผ่านคลื่นวิทยุเท่านั้น

ปัจจุบัน : วิทยุได้รับความนิยมลดน้อยลง แต่ก็ยังมีผู้ใช้งานอยู่พอสมควร โดยวิทยุกลายเป็นฟังก์ชั่นหนึ่งที่มาพร้อมกับเครื่องเสียงภายในรถยนต์ โทรศัพท์ และสมาร์ทโฟน ซึ่งสามารถรับสัญญาณได้ทั้งจากคลื่นวิทยุเดิมและสัญญาณอินเทอร์เน็ต ส่วนเครื่องวิทยุนั้นก็จะมีทั้งขนาดใหญ่ และเล็ก ทำให้สามารถพกพาได้สะดวกขึ้น

เครื่องคิดเลข

อดีต : ในอดีตเครื่องคิดเลขใช้ระบบแบบเชิงกล ซึ่งตัวเครื่องจะมีน้ำหนักมาก ทำให้สามารถใช้งานได้เฉพาะที่ และใช้คำนวณได้จำกัดมาก ตามที่แต่ละเครื่องมีให้เท่านั้น

ปัจจุบัน : เครื่องคิดเลขกลายเป็นระบบดิจิตอลทั้งหมด และสามารถคำนวณได้หลากหลายค่ามากขึ้น ซึ่งถ้าเป็นเครื่องคิดเลขเฉพาะทางจะฟังก์ชั่นมากมายที่สามารถคำนวณได้ และมีเครื่องคิดเลขทั้งแบบเครื่องพกพา และเครื่องคิดเลขที่มาพร้อมกับโทรศัพท์ สมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์ สามารถคำนวณได้ง่ายในทุกที่

เครื่องบันทึกเสียง

อดีต : เครื่องอัดเสียงในอดีตจะมีขีดจำกัดในการบันทึกที่เพียงไม่กี่คำเท่านั้น และขนาดตัวเครื่องที่พกพาไม่สะดวกนัก รวมถึงไม่สามารถบันทึกแล้วฟังได้ทันที ต้องนำแผ่นเสียงไปเปิดในอุปกรณ์ที่รองรับจึงจะสามารถฟังเสียงที่บันทึกไว้ได้ คุณภาพเสียงที่ได้ก็จะไม่มากนัก 

ปัจจุบัน : เครื่องอัดเสียงสามารถอัดได้หลายสิบหลายร้อยชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับหน่วยความจำตัวเครื่อง และคุณภาพของไฟล์เสียง) ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก รวมถึงมีคุณภาพเสียงที่ดี เพราะมีไมค์หลายตัว ทั้งไมค์หลัก ไมค์รอง ไมค์ตัดเสียงรบกวน มีฟังก์ชั่นอัดเสียงบนสมาร์ทโฟนและโทรศัพท์ทุกรุ่น และตัวเครื่องที่ขนาดเล็ก ทำให้เครื่องอัดเสียงสามารถพกพาไปได้ทุกที่ตามที่ต้องการ

สำหรับการพัฒนาของ Technology นั้นก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเวลาและการพัฒนาของนวัตกรรมต่างๆ โดยตรง เรียกได้ว่าแต่ละส่วนเมื่อได้รับการเพิ่มความสามารถให้ดียิ่งขึ้น ก็จะส่งผลต่อสิ่งอื่นๆ ให้ได้รับการพัฒนาด้วยเช่นกัน ทำให้ Technology นั้นมีความทันสมัย มีขนาดที่สามารถพกพาได้ และมีประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีขึ้น และส่งผลโดยตรงต่อมนุษย์อย่างเรา ที่จะมีคุณภาพที่ดีขึ้นจาก Technology เหล่านี้นั่นเองครับ