How to : โทรศัพท์หายต้องทำอย่างไร กับวิธีติดตามทั้งบน iOS และ Android

How to : โทรศัพท์หายต้องทำอย่างไร กับวิธีติดตามทั้งบน iOS และ Android

How to, โทรศัพท์หาย, ทำอย่างไร, ป้องกัน ปลอดภัย, สมาร์ทโฟน, ล็อกรหัส, ส่งเสียง แจ้งเตือน, ลบข้อมูล,

Smartphone สำหรับใครหลายคนนั้น คงจะเรียกได้ว่าเป็นอวัยวะที่ 33 เลยก็ว่าได้ เพราะมีความสำคัญ สามารถใช้ได้ทั้งติดต่อผู้อื่นในเรื่องทั่วไปและธุรกิจ หรือใช้เพื่อความบันเทิงอย่างที่หลายคนนิยมกัน ทั้งฟังเพลง เล่นเกม ถ่ายภาพ อ่านการ์ตูน ดูภาพยนตร์ และก็มีหนึ่งปัญหาที่หลายคนอาจจะพบได้ในการใช้งาน นั่นก็คือ การที่เครื่องหาย หรือถูกขโมย ที่ถึงแม้จะเกิดไม่บ่อย แต่ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ทั้งจากความไม่ระมัดระวังของเราเอง หรือเกิดจากการถูกลักขโมย วันนี้เราจึงมี How to ที่จะช่วยแนะนำทุกคนว่า เมื่อโทรศัพท์หาย เราควรทำอย่างไรมาฝากกันครับ

สำหรับสมาร์ทโฟน ถ้าพูดถึงระบบที่ช่วยป้องกันให้เกิดความปลอดภัย ถือว่าแต่ละรุ่นสามารถทำได้ในระดับดีเลยทีเดียว โดยก็มีทั้งระบบสแกนลายนิ้วมือ สแกนใบหน้า หรือการล็อกรหัสที่จะช่วยให้ข้อมูลบนเครื่องไม่สามารถถูกเข้าถึงได้ง่ายๆ แต่หาก Smartphone ถูกขโมย หรือหายไป ระบบเหล่านี้ก็ยังคงช่วยในการปกป้องข้อมูลภายในตัวเครื่อง รวมถึงทำให้ตัวเครื่องไม่สามารถถูกลบข้อมูลไปได้ง่ายๆ นอกจากนั้นก็ยังมีระบบที่จะช่วยติดตามตัวเครื่องเรา รวมถึงก่อกวน ส่งสัญญาณ ส่งข้อความไปยัง Smartphone เครื่องที่หายไปได้อีกด้วย อยากรู้แล้วใช่ไหมครับว่าทำอย่างไร ไปดูกันเลย

 

โทรศัพท์หาย ทำอย่างไร? พร้อมวิธีทั้ง iOS และ Android

How to, โทรศัพท์หาย, ทำอย่างไร, ป้องกัน ปลอดภัย, สมาร์ทโฟน, ล็อกรหัส, ส่งเสียง แจ้งเตือน, ลบข้อมูล,

สำหรับการติดตามโทรศัพท์หายจะทำอย่างไรนั้น เราก็มีวิธีง่ายๆ มาฝากทุกคนกันครับ ซึ่งก็แยกเป็นขั้นตอนของระบบปฏิบัติการ iOS และระบบปฏิบัติการ Android ที่มีความแตกต่างกัน และนอกจากวิธีตามหาเครื่องที่หายแล้ว เราก็ยังมีวิธีในการป้องกันส่วนวิธีจะเป็นอย่างไรนั้น ไปดูกันเลยครับ

 

Find my iPhone (iOS)

How to, โทรศัพท์หาย, ทำอย่างไร, ป้องกัน ปลอดภัย, สมาร์ทโฟน, ล็อกรหัส, ส่งเสียง แจ้งเตือน, ลบข้อมูล,

สำหรับการตามหาอุปกรณ์ iOS ที่หายไปนั้น ใช้ได้ทั้ง iPhone, iPad, iPod touch, Mac, Apple Watch และ Airpods ซึ่งจะแสดงผลเฉพาะอุปกรณ์ที่อยู่ใน Apple ID ของเรานั่นเองครับ โดยจะสามารถตามหาอุปกรณ์ได้ เมื่อเราเปิดใช้งาน iTunes และ Find my iPhone บนอุปกรณ์เรา โดยมีขั้นตอนดังนี้ครับ

  • เข้าไปที่ การตั้งค่า หรือ Settings และแตะแถบที่เป็นชื่อและภาพของเรา
  • เข้าไปที่เมนู Find My
  • เลือกตรง Find My iPhone, iPad, iPod และเปิดให้เป็น On

ในกรณีที่อุปกรณ์ของเราหายไป สามารถติดตามได้ด้วยวิธีนี้ครับ

  • เข้าไปที่เว็บไซต์ https://www.icloud.com/find
  • ล็อกอินด้วย Apple ID ที่ผูกไว้กับอุปกรณ์
  • เมื่อ Login แล้ว จะขึ้นแผนที่แสดงพิกัดของอุปกรณ์เรา ณ ตอนนั้น
  • เมื่อต้องการสั่งการใดๆ บนอุปกรณ์ ให้คลิกที่จุดสีเขียว และเครื่องหมาย i เพื่อแสดงรายละเอียด
  • ผู้ใช้สามารถสั่งการอุปกรณ์ได้ดังนี้
    • iPhone, iPad, iPod touch, Apple Watch สามารถดูตำแหน่งที่ตั้ง ส่งเสียง เปิด Lost Mode ลบข้อมูลจากระยะไกล และล็อกการเข้าใช้เครื่อง
    • Mac สามารถดูตำแหน่งที่ตั้ง ส่งเสียง ล็อกการเข้าใช้เครื่อง และลบข้อมูลจากระยะไกล
    • AirPods สามารถดูตำแหน่งที่ตั้ง และส่งเสียง

ซึ่งขั้นตอนนี้ก็มีข้อดีคือเราสามารถทราบได้ว่า ณ ขณะที่อุปกรณ์เราหายไปนั้น หายไปอยู่ที่ไหน และทำให้เรามีโอกาสได้รับเครื่องคืนอยู่บ้าง แต่ก็จะมีข้อเสียอยู่ตรงที่ว่า หากอุปกรณ์ของเราไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หรือมีผู้ปิดอุปกรณ์ของเรา จะทำให้การตามหาแบบ Real time นั้นเป็นไปได้ยากมาก เพราะระบบจะส่งข้อมูลแค่จุดที่อุปกรณ์เรา Online อยู่ล่าสุดเท่านั้น ซึ่งถ้าหากไม่สามารถตามหาเครื่องได้แล้วจริงๆ เราแนะนำให้ทำการลบข้อมูลทั้งหมดออกเพื่อความปลอดภัยจะดีกว่า

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.apple.com/th/icloud/find-my/

 

Google Find Device (Android)

How to, โทรศัพท์หาย, ทำอย่างไร, ป้องกัน ปลอดภัย, สมาร์ทโฟน, ล็อกรหัส, ส่งเสียง แจ้งเตือน, ลบข้อมูล,

สำหรับการตามหาอุปกรณ์ Android ที่หายไปนั้น ต้องใช้เป็นบริการ Google Find Device จากทาง Google ที่จะมีฟังก์ชั่นการตามหาอุปกรณ์ของเรา โดยรองรับกับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ทั้งหมด และจะแสดงผลเฉพาะอุปกรณ์ที่อยู่ใน Google Account ของเราเท่านั้น โดยไม่ต้องตั้งค่าเบื้องต้นใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งมีขั้นตอนในการติดตามอุปกรณ์ดังนี้ครับ

  • เข้าไปยังเว็บไซต์ https://myaccount.google.com/find-your-phone หรือพิมพ์ว่า Find my Device ในแถบการค้นหา Google
  • หากเข้าผ่านทางแถบการค้นหา Google จะแสดงผลอุปกรณ์มายังผลลัพธ์แรก เมื่อคลิกเข้าไปจะไปยังหน้าแผนที่
  • หากเข้าผ่าน Find Your Phone กูเกิ้ลจะให้เราล็อกอิน และเลือกอุปกรณ์ก่อน หลังจากนั้นจะนำไปยังขั้นตอนที่เป็นการตรวจสอบอุปกรณ์ ซึ่งเมื่อเรากด Locate กูเกิ้ลจะพาเราไปยังหน้าแผนที่
  • ในหน้าแผนที่ จะแสดงผลพิกัดของอุปกรณ์ของเรา โดยจะแสดงผลเป็นหมุดสีเขียว และตัวเลือกดังนี้
    • Play Sound เล่นเสียงเป็นเวลา 5 นาที
    • Secure Device ล็อกอุปกรณ์ และ Sign out บัญชี Google โดยเราสามารถส่งข้อความหรือเบอร์โทรศัพท์ไปแสดงผลยังอุปกรณ์ได้ และยังคงแสดงตำแหน่งแม้จะออกจากระบบ
    • Erase Device ลบข้อมูลของอุปกรณ์ออกทั้งหมด

ในกรณีที่เรามีความมั่นใจแล้วว่า อุปกรณ์ของเราไม่มีทางได้คืนแน่นอน เราก็ขอแนะนำให้เป็นการ Erase Device เพื่อความปลอดภัย ซึ่งก็มีข้อดีและข้อเสียคล้ายๆ กับอุปกรณ์ iOS ก็คือจะแสดงผลอุปกรณ์เราว่าอยู่ที่ไหน แต่หากเครื่องออฟไลน์หรือปิดอยู่นั้น ก็จะตามหาแบบ Real time ได้ยากนั่นเอง 

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.google.com/android/find

 

วิธีเพิ่มความปลอดภัยให้กับอุปกรณ์ และป้องกันไม่ให้มือถือหาย

สำหรับขั้นตอนนี้ อาจจะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหามือถือหายในอนาคตได้ โดยเรามีขั้นตอนดีๆ มาแนะนำดังนี้ครับ

  • ล็อกอุปกรณ์ด้วยรหัสผ่านหรือ Biometrics แน่นอนว่าเป็นเรื่องความปลอดภัยที่สมาร์ทโฟนแทบทุกเครื่องแนะนำให้ใช้งานตั้งแต่ตั้งค่าครั้งแรก เราก็ควรที่จะเปิดใช้งานฟังก์ชั่นเหล่านี้ โดยเฉพาะลายนิ้วมือและใบหน้า ที่เป็นข้อมูลแบบ Biometrics หรือชีวมาตร ซึ่งเป็นข้อมูลแบบปัจเจกบุคคล ทำให้โดนปลอมแปลงได้ยากมาก และลดความเสี่ยงไม่ให้ผู้อื่นเข้าถึงอุปกรณ์ของเราได้ง่ายๆ
  • ตั้งพาสเวิร์ดเข้าอุปกรณ์ที่คาดเดาได้ยาก ข้อนี้ก็สำคัญ ในกรณีที่เครื่องไม่รองรับข้อมูลทางชีวมาตร เราก็ควรจะตั้งพาสเวิร์ดให้คาดเดาได้ยาก ไม่แนะนำให้ตั้งเป็นวันเดือนปีเกิด เลขรหัสนักศึกษา เลขที่มีรูปแบบง่ายๆ เช่น เลขลำดับ (123456) เลขซ้ำ (555555) เพราะจะทำให้คนอื่นสามารถเข้าถึงอุปกรณ์เราได้ง่าย ดังนั้นควรตั้งเป็นเลขที่เรารู้เพียงคนเดียว จะปลอดภัยที่สุด และควรตั้งเป็น 6 หลัก เพราะจะทำให้คาดเดาได้ยาก (ความเป็นไปได้ 1 ใน 1,000,000 ซึ่งมากกว่าพาสเวิร์ดแบบ 4 ตัวเป็น 100 เท่า)
  • ไม่วางอุปกรณ์ทิ้งไว้ในที่สาธารณะ หากเราใช้งานอุปกรณ์ในที่สาธารณะ ไม่ควรวางทิ้งไว้โดยไม่มีคนรู้จักหรือคนที่ไว้ใจได้ดูแล เพราะเป็นการเปิดช่องทางให้อุปกรณ์ของเราถูกขโมยหรือถูกลืมจนหายได้ง่ายๆ ทางที่ดีคือควรเก็บไว้กับตัวเอง หรือถ้าเป็นคนขี้ลืม อุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ อย่างสมาร์ทโฟนควรใช้แล้วนำเข้าเก็บในกระเป๋าเลยจะดีที่สุด
  • เปิด GPS หรืออินเทอร์เน็ตไว้ตลอดเวลา แม้จะเป็นการเปลืองแบตเตอรี่ แต่ในกรณีที่มือถือของเราหาย ฟังก์ชั่นเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับการตามหาอุปกรณ์ของเรามาก ยอมชาร์จแบตเตอรี่บ่อยครั้งมากขึ้น แลกกับความสบายใจที่มากขึ้นด้วยจะดีกว่า แต่หากใช้งานอยู่ในบ้าน หรือเป็นช่วงกลางคืนที่เรานอนหลับ จะปิดอินเทอร์เน็ตก็ได้เช่นกัน แต่ GPS นั้นควรเปิดตลอดเวลา

 

ในขั้นตอนของการตามหาอุปกรณ์นั้น ก็จะมีทั้งการส่งเสียงร้องแจ้งเตือนออกมาจากอุปกรณ์ ซึ่งก็มีประโยชน์สำหรับเราในการตามหาอุปกรณ์หากลืมไว้ใกล้ๆ หรือไม่ก็เป็นการเรียกความสนใจจากคนที่อยู่ใกล้ๆ อุปกรณ์ที่เราลืมไว้ได้ ซึ่งล้วนแต่จะช่วยให้เรามีโอกาสได้อุปกรณ์คืน แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ควรจะระมัดระวังในการใช้งานด้วยตัวเองเป็นลำดับแรก ควรใส่ใจและให้ความสำคัญกับการใช้งานอุปกรณ์ส่วนตัวให้มาก ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องของการทำหายได้ดีเลยทีเดียวครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง
  • มาดู 6 เทคโนโลยีของสมาร์ทโฟนที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตกัน

    มาดู 6 เทคโนโลยีของสมาร์ทโฟนที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตกัน

    By AI Peem | 14/04/2020

    ในแต่ละปีนั้นสมาร์ทโฟนมีการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ทั้งจอภาพที่ขนาดใหญ่ขึ้น กล้องที่มีความละเอียดมากขึ้น ตัวเครื่องที่มีดีไซน์แปลกใหม่ วันนี้เราจะพาไปดู 6 เทคโนโลยีของสมาร์ทโฟนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตกัน

  • แนะนำแอปพลิเคชั่นใช้ทำงานบน iPad ทำได้ครบ จบในเครื่องเดียว

    By AI Peem | 20/02/2020

    iPad ในตอนนี้ได้รับความนิยมมากทั้งในหมู่นักเรียนนักศึกษา ที่มักพกพาไปใช้จดบันทึกการเรียน แต่รู้มั้ยว่า วันทำงานอย่างเราก็สามารถพก iPad ไปทำงานได้เหมือนกันนะ มาดูกันว่ามีแอปอะไรที่ช่วยให้เราทำงานได้ง่ายขึ้นบ้าง

  • แนะนำ 7 สมาร์ทโฟนน่าใช้ประจำเดือนมิถุนายน 2020

    แนะนำ 7 สมาร์ทโฟนน่าใช้ประจำเดือนมิถุนายน 2020

    By AI Peem | 30/06/2020

    พบกันเป็นประจำทุกเดือนสำหรับการแนะนำสมาร์ทโฟนน่าใช้ ที่ในรอบเดือนมิถุนายนนี้ ก็มีสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจหลากหลายรุ่นมาแนะนำทุกคนกันครับ จะมีรุ่นในดวงใจของแต่ละคนกันหรือเปล่า ไปดูกันเลย

Jobs aSearcher