สรุป Apple Event เดือนกันยายน 2020 มีอะไรใหม่ มาดูกัน !!

เมื่อคืนวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทย ทางแอปเปิ้ลก็ได้มีการจัดงานเปิดตัวอุปกรณ์รุ่นใหม่ออกมา ซึ่งในครั้งนี้มีข่าวลือมาอย่างยาวนานมากเลยทีเดียว โดยจากที่เราติดตามงานมาในตลอดช่วงเช้านี้ เราก็จะมาสรุป Apple Event ในเดือนกันยายน 2020 ว่ามีอะไรใหม่บ้าง ตามมาดูกันเลยครับ

สำหรับการเปิดตัวในครั้งนี้นั้น สื่อหลายสำนักคาดการณ์มาก่อนหน้าว่า ครั้งนี้จะยังไม่มีการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ออกมา ซึ่งก็เป็นไปตามคาด เพราะในงานนี้ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่อยู่หลักๆ 3 ประเภทด้วยกัน ซึ่งได้แก่ แอปเปิ้ล วอช, ไอแพด และบริการ Subscription รูปแบบใหม่ และนอกจากนั้นยังเป็นการเปิดตัววันอัพเดท iOS 14 ของอุปกรณ์ทั้งหมด ซึ่งก็จะเป็นวันที่ 16 กันยายนตามเวลาท้องถิ่นของ San Francisco หรือประมาณช่วงบ่ายของประเทศไทยวันนี้นั่นเอง

Apple Event กันยายน 2020 มีอะไรใหม่บ้าง?

สำหรับงานเปิดตัว Apple Event กันยายน 2020 จะมีอะไรใหม่ ผลิตภัณฑ์ใดเปิดตัวบ้าง ไปดูกันเลยครับ

Apple Watch Series 6

สมาร์ทวอชรุ่นใหม่จาก Apple กับซีรี่ส์ 6 ที่มาพร้อมกับการอัปเกรดประสิทธิภาพและฟีเจอร์ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการวัดระดับออกซิเจนในเส้นเลือด แจ้งเตือนเมื่อหัวใจเต้นผิดปกติ สีสันใหม่อย่างสีแดง (PRODUCT)RED สีทองสแตนเลสสตีล และสีน้ำเงิน พร้อมสายแบบ Solo Loop ยืดหดได้ ไซส์หลากหลาย หน้าปัดรูปแบบใหม่ พร้อมการเชื่อมต่อแบบครอบครัวที่ไม่ต้องการ ส่วนในด้านของฮาร์ดแวร์นั้นมาพร้อมกับชิบ Apple S6 พร้อมชิป U1 Ultra Wideband ที่พัฒนาขึ้นจากรุ่นก่อน และหน้าจอแบบ Always On Display ติดตลอด และสว่างขึ้นกว่าเดิม 2.5 เท่า นอกจากนั้นยังสามารถชาร์ตแบตเตอรี่ได้เร็วกว่ารุ่นก่อนถึง 20%

ราคาเริ่มต้น : 13,400 บาท (ตัวเรือนแบบ Aluminium)

วันวางจำหน่าย : 18 กันยายนเป็นต้นไป

Apple Watch SE

สมาร์ทวอชรุ่นที่น่าสนใจเป็นพิเศษ เพราะมาพร้อมกับราคาที่ถือว่าถูกมากๆ แต่สเปกนั้นยังครบครัน โดยมาพร้อมกับดีไซน์และชิปเซ็ต S5 แบบเดียวกับใน Apple Watch Series 5 พร้อมกับสาย Solo Loop แบบใหม่เหมือนกับใน Apple Watch 6 แต่จะไม่มีฟีเจอร์ Always On Display ไป ในด้านประสิทธิภาพนั้นมีความเร็วกว่า Watch Series 3 ถึง 2 เท่า สามารถใส่ว่ายน้ำได้ และมีระบบ Fall Detection ที่จะคอยแจ้งเตือนเมื่อเกิดอุบัติเหตุกับผู้ใช้

ราคาเริ่มต้น : 9,400 บาท (ตัวเรือนแบบ Aluminium)

วันวางจำหน่าย : 18 กันยายนเป็นต้นไป

iPad Air 4

เป็นการอัพเกรด iPad Air ครั้งใหญ่ที่เปลี่ยนดีไซน์ไปมากเลยทีเดียว โดย iPad Air 4 นั้นเปลี่ยนมาใช้ดีไซน์รูปแบบเดียวกับ iPad Pro พร้อมขยายขนาดหน้าจอเป็น 10.9 นิ้ว รองรับ True Tone Display และสีสันแบบ P3, ลำโพงคู่แบบสเตอริโอ, Touch ID ที่ปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง, รองรับปากกา Apple Pencil รุ่น 2, กล้องด้านหลัง 12 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 7 ล้านพิกเซล, รองรับ Wi-Fi 6 พร้อมสิ่งที่เด็ดที่สุดคือเป็นรุ่นแรกมาพร้อมกับชิปเซ็ต Apple A14 รุ่นแรก, รองรับ USB-C พร้อมที่ชาร์จ 20W ในกล่อง และสีสันโดดเด่นถึง 5 สี โดยมีสีพิเศษคือสีเขียว และสีน้ำเงิน เรียกได้ว่าอัพเกรดทุกด้านแบบจัดเต็มเลยทีเดียว

ราคาเริ่มต้น : 19,900 บาท (รุ่น Wi-Fi ความจุ 64 GB)

วันวางจำหน่าย : เดือนตุลาคม (ยังไม่กำหนด)

iPad 8th generation

เป็นการอัพเกรด iPad รุ่นที่ 7 ขึ้นมาให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากขึ้น โดย iPad รุ่นที่ 8 มาพร้อมกับชิปเซ็ต Apple A12 และหน้าจอขนาด 10.2 นิ้ว ส่วนโดยภาพรวมนั้นยังคงคล้ายกับไอแพดรุ่นที่ 7 แต่จะมีความพิเศษคือการแถมที่ชาร์จ 20W มาให้ภายในกล่องเลย ทำให้ตัวเครื่องชาร์จได้เร็วกว่าเดิมถึงเกือบ 2 เท่า นอกจากนั้นก็ยังคงรองรับ Smart Keyboard และปากกา Apple Pencil รุ่นที่ 1 เช่นเดิม

ราคาเริ่มต้น : 10,900 บาท

วันวางจำหน่าย : 18 กันยายนเป็นต้นไป

Apple One

เป็นบริการเสริมที่รวบรวม Service ต่างๆ ของ Apple เข้ามาไว้ในที่เดียว ซึ่งในประเทศไทยแพคเกจนั้นจะรวมบริการ Apple TV+, Arcade, Music และ iCloud เข้ามาไว้ เมื่อสมัครใช้งานก็จะสามารถใช้บริการทั้ง 4 ได้พร้อมกันทันที คนที่ใช้บริการเหล่านี้อยู่แล้วยิ้มออกแน่นอน โดยมาพร้อมกับ 2 แพคเกจ ดังนี้

แพคเกจ Individual : ค่าบริการ 225 บาท/เดือน/คน (ใช้ได้ 1 คน) สามารถใช้บริการ Apple TV+, Arcade, Music และได้พื้นที่ iCloud 50 GB

แพคเกจ Family : ค่าบริการ 295 บาท/เดือน/กลุ่ม (ใช้ได้สูงสุด 6 คน) สามารถใช้บริการ App le TV+, Arcade, Music และได้พื้นที่ iCloud 200 GB (ถ้าใช้ 6 คน เฉลี่ยค่าบริการเดือนละ 50 บาท/คน)

โดย Apple One จะเริ่มให้บริการในประเทศไทยเร็วๆ นี้ (ไม่เกินสิ้นปี 2020)

Apple Fitness+

เป็นบริการ Subscription สำหรับผู้ที่รักการออกกำลังกายโดยเฉพาะ โดยจะเป็นศูนย์รวมการออกกำลังกายประเภทต่างๆ และผู้ใช้งานสามารถออกกำลังกายตามคลิปวิดีโอโดยทันที นอกจากนั้นยังมีการ Sync ข้อมูลไป-มาระหว่าง Apple Watch กับอุปกรณ์ iOS เพื่อให้เราสามารถ Track การออกกำลังกายของตนเองได้ เรียกได้ว่าสายรักสุขภาพต้องชอบกันอย่างแน่นอน สนนค่าบริการอยู่ที่ 9.99 USD/เดือน แต่ถ้าซื้อ Apple Watch ใหม่ จะสามารถใช้งานฟรี 3 เดือน โดยบริการนี้จะไม่เปิดให้บริการในประเทศไทย

เรียกได้ว่างานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple ในครั้งนี้ แม้จะเปิดมาหลักๆ เพียงแค่ 3 อย่างหลักๆ ได้แก่ Apple Watch, iPad และบริการเสริมอย่าง Apple One แต่ก็สร้างความน่าตื่นเต้นให้กับชาวไอทีไม่น้อยเลยทีเดียว ในส่วนของการวางจำหน่าย ทุกรุ่นสามารถหาซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน ยกเว้น iPad Air 4 ที่จะวางจำหน่ายในเดือนตุลาคม อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้ว งานในเดือนกันยายนนั้นจะมี iPhone เปิดตัวออกมาด้วย แต่ครั้งนี้กลับไม่มี คาดว่าเดือนหน้านั้นจึงจะมีการเปิดตัว iPhone 12 Series ขึ้น ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไป แน่นอนว่า เมื่อมีการเปิดตัว iPhone 12 แล้ว เราก็จะนำรายละเอียดมาฝากทุกคนกันอีกเช่นเคยครับ