รู้จักกับระบบ Fast Charge คืออะไร?? มีกี่แบบ ข้อดีข้อเสียมีอะไรบ้าง??
รู้จักกับระบบ Fast Charge คืออะไร?? มีกี่แบบ ข้อดีข้อเสียมีอะไรบ้าง??
ปัจจุบัน Technology หนึ่งที่มีความแพร่หลายในการใช้งานมากขึ้น และหลายคนเริ่มที่จะรู้จักกัน นั่นก็คือ Fast Charge (QC) หรือการชาร์จเร็วนั่นเอง ซึ่งผู้ใช้งานส่วนมากก็มักจะคุ้นเคยกันดีกับระบบนี้ที่มีใช้งานอยู่ในสมาร์ทโฟนกันเสียส่วนมาก แต่จริงๆ แล้ว ก็ยังมีอุปกรณ์อื่นที่รองรับอีกด้วยเช่นกัน ซึ่งจริงๆ แล้ว QC คืออะไรนั้น เราจะพาไปดูรายละเอียดกันครับ
ฟาสชาร์จนั้น เป็นเทคโนโลยีการชาร์จไฟด้วยรูปแบบของ Power Delivery (PD) ซึ่งเป็นมาตรฐานของการจ่ายไฟด้วยความเร็วสูง ผ่านการเชื่อมต่อด้วยสายชาร์จหรืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการจ่ายไฟความเร็วสูง ซึ่งส่งผลทำให้แบตเตอรี่ของอุปกรณ์นั้นลดระยะเวลาในการชาร์จได้ไปเยอะเลยทีเดียว ซึ่งอุปกรณ์บางรุ่นที่รองรับ PD หรือควิกชาร์จนั้น สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เต็มภายในระยะเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น ส่วนมาก PD นั้นจะถูกใส่มาในอุปกรณ์พกพาเพื่อความสะดวกในการเติมแบตเตอรี่ ซึ่งเราก็จะพบได้เป็นประจำในสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และโน้ตบุ๊ก โดยประสิทธิภาพการจ่ายไฟแบบ PD นั้นเริ่มต้นที่ 15W ไปจนถึง 100W เลยทีเดียว
Fast Charge ประเภท และข้อดี-ข้อเสียคืออะไร
ปัจจุบัน Fast Charge นั้น แบ่งประเภทของระบบการชาร์จเร็วด้วยชื่อของผู้ผลิต แต่คำว่าฟาสชาร์จนั้น นิยมใช้เรียกกันจนกลายเป็นชื่อทั่วไปของระบบการชาร์จเร็วแล้ว ส่วนระบบการชาร์จเร็วจะมีประเภท และข้อดี-ข้อเสียคืออะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยครับ
ประเภทของระบบชาร์จเร็ว
ส่วนมากแล้ว ประเภทของระบบชาร์จเร็วนั้น มักจะแบ่งตามเทคโนโลยีของผู้ผลิตแต่ละราย ซึ่งหลักๆ ก็จะเน้นไปที่การจ่ายไฟด้วยความเร็วสูง ซึ่งเทคโนโลยีประเภทจ่ายไฟสูงนั้น จะมีชื่อเรียกหลักๆ ดังนี้ครับ
- Quick charge คือระบบการชาร์จเร็วที่พัฒนาโดย Qualcomm ซึ่งมักจะใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟนที่ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon และหัวชาร์จที่รองรับเทคโนโลยี QC เท่านั้น แต่ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาให้สามารถใช้ร่วมกับ Power Delivery ได้แล้ว ซึ่งจะชาร์จได้สูงสุดอยู่ที่ 27W สำหรับ Quick Charge 4.0
- Power Delivery (PD) คือชื่อของระบบการชาร์จเร็วที่ใช้เพื่อครอบคลุมถึงอุปกรณ์ที่รองรับเทคโนโลยีนี้ทั้งหมด โดยไม่จำเพาะเจาะจงว่าเป็นของผู้พัฒนาหรือผู้ผลิตรายไหน ซึ่งอุปกรณ์ที่รองรับเทคโนโลยี PD นั้นก็จะมีความสามารถในการจ่ายไฟตั้งแต่ 15W ไปจนถึง 100W เลยทีเดียว ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับตัวเครื่อง สายชาร์จ และอแดปเตอร์ว่าสามารถรองรับการจ่ายและรับไฟได้สูงสุดที่กี่วัตต์
- SuperCharge เป็นชื่อของระบบการชาร์จเร็วที่พัฒนาโดย Huawei ซึ่งมักจะใช้กับอุปกรณ์ของ Huawei ในรุ่นเด่นๆ เช่น รุ่น Flagship ซึ่งก็จะมีความสามารถในการจ่ายไฟสูงสุดที่ 40W ในตอนนี้ โดยต้องใช้ร่วมกับอแดปเตอร์และสายชาร์จของ Huawei กับสมาร์ทโฟนที่รองรับเทคโนโลยีนี้เท่านั้น
- VOOC Flash Charge เป็นชื่อของระบบการชาร์จเร็วที่พัฒนาโดย OPPO ซึ่งมีการใช้งานในสมาร์ทโฟน OPPO และ realme ในรุ่นราคาสูง โดยจะจำกัดการใช้กับหัวชาร์จและสายชาร์จที่รองรับ VOOC เท่านั้น โดยมีกำลังการจ่ายไฟสูงสุดในตอนนี้คือ 65W
- WarpCharge เป็นชื่อของระบบการชาร์จเร็วที่พัฒนาโดย OnePlus ซึ่งใช้ในสมาร์ทโฟนตระกูล OnePlus ในทุกรุ่น โดยมีกำลังการจ่ายไฟสูงสุดในตอนนี้คือ 30W
- Adaptive Fast Charging เป็นชื่อของระบบการชาร์จเร็วที่พัฒนาโดย Samsung ซึ่งใช้ในอุปกรณ์ของ Samsung โดยมีกำลังในการจ่ายไฟตั้งแต่ 15W ถึง 45W
ข้อดีของระบบ Fast Charge
- เติมแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์ได้โดยใช้ระยะเวลาไม่นานมาก
- อแดปเตอร์มักมีขนาดไม่ใหญ่มาก ทำให้พกพาง่าย
- อุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จเร็ว (อุปกรณ์พกพา เช่น แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน) มักจะใช้ร่วมกันได้ เพราะมาจากพื้นฐานเทคโนโลยีรูปแบบเดียวกัน
- เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน ไม่ต้องรอชาร์จแบตเตอรี่นาน
ข้อเสียของระบบ Fast Charge
- ตัวเครื่องในระหว่างการชาร์จมักจะมีความร้อนสูงกว่าการชาร์จระบบปกติ
- อุปกรณ์เสริมมีราคาแพง
- เทคโนโลยีของผู้ผลิตบางรายไม่สามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์ยี่ห้ออื่นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- อายุการใช้งานของแบตเตอรี่อาจจะน้อยกว่าอุปกรณ์อื่น (เพราะความร้อนทำให้แบตเตอรี่เสื่อมประสิทธิภาพได้ไวขึ้น) ข้อนี้อาจจะไม่ค่อยเห็นผลเท่าไรนัก
การใช้งานระบบชาร์จไวบนอุปกรณ์ที่รองรับนั้น เรียกได้ว่าเพิ่มความสะดวกให้กับการใช้งานอุปกรณ์พกพาทั้งหลายมากเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะไม่ต้องรอชาร์จแบตเตอรี่เป็นเวลานานแล้ว อุปกรณ์สำหรับชาร์จเช่นอแดปเตอร์และสายสำหรับชาร์แบตเตอรี่ก็มีขนาดที่ไม่ใหญ่และใช้ร่วมกันได้ด้วย เรียกได้ว่าพกสายกับที่ชาร์จแค่อันเดียวก็ใช้ได้ครบครันเลย
-
แนะนำ 6 สมาร์ทโฟนน่าใช้ประจำเดือนสิงหาคม 2563
พบกันเป็นประจำทุกเดือนสำหรับการแนะนำสมาร์ทโฟนที่น่าใช้งานของแต่ละเดือน ซึ่งของเดือนสิงหาคมนั้น เรามีมาแนะนำให้กับทุกคนกันถึง 6 รุ่นเลยทีเดียว ส่วนจะมีรุ่นอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยครับ
-
พาไปรู้จักกับสัญญาณ WiFi ให้มากขึ้น !! มีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไร?
สัญญาณ WiFi ถือว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวของหลายๆ คนเลยก็ว่าได้ เพราะเราต้องเจอทั้งที่ทำงาน ที่บ้าน สถานที่ต่างๆ ล้วนแล้วแต่มีไวไฟเต็มไปหมด แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องของ WiFi ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ ไปดูกันเลยครับ
-
สรุปมาให้แล้ว กับฟีเจอร์ iOS 14 มีอะไรใหม่? รุ่นไหนได้อัพเดทบ้าง?
เป็นประจำทุกปีสำหรับ Apple ที่จะจัดอีเวนท์อย่าง WWDC เพื่อเปิดตัวซอฟต์แวร์ หรือนวัตกรรมใหม่ๆ ของทางค่ายออกมา และสำหรับในปีนี้ WWDC 2020 ก็ได้มีการเปิด iOS 14 ที่มีความพิเศษมากกว่าเดิม ไปดูข้อมูลกันเลยครับ