มาเรียนรู้วิธีรับมือเมื่อต้องตกงานแบบไม่ทันตั้งตัวกัน! ควรทำยังไงดี?
วิธีรับมือเมื่อต้องว่างงานแบบไม่ทันตั้งตัว!
เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ทำให้ธุรกิจเกือบทุกอย่างในประเทศไทยต้องหยุดชะงัก บริษัทหลายแห่งมีการปรับแผนลดคน ลดเงินเดือน บางที่ก็ถึงขั้นเลิกกิจการกันไปเลยทีเดียว ดังนั้นคนทำงานจึงต้องเรียนรู้วิธีรับมือเมื่อต้องตกงานแบบไม่ทันตั้งตัวกันว่าควรจะทำยังไงดีนะ?
การตกงานหรือว่างงานถือเป็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้กับคนทำงานทุกคน บางครั้งก็อาจจะรู้ล่วงหน้าให้ได้เตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับความเปลี่ยนแปลง แต่ในบางครั้งกลับมาเยือนอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว เมื่อต้องตกงานสิ่งที่ตามมาก็คือความเครียด ความกังวล กลัวว่าจะหางานใหม่ไม่ได้ กลัวว่าครอบครัวจะเป็นห่วง กลัวว่าหากตกงานนานเกินไปเงินจะไม่พอใช้ และอีกสารพัดความกลัวที่จะตามมา
เมื่อต้องตกงานแบบไม่ทันตั้งตัว ควรทำยังไงดี?
ต้องบอกเลยว่าเมื่อคนทำงานต้องเจอกับปัญหาการว่างงานแบบกะทันหัน ก็ย่อมสร้างความตื่นตระหนกและความเครียดอย่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้เราก็ควรมาหาวิธีรับมือเมื่อต้องตกงานแบบไม่ทันตั้งตัวกันดีกว่าว่าควรทำยังไงดี?
1. ตั้งสติ
อันดับแรกเลยก็คือต้องตั้งสติก่อน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ตรงหน้า หายใจเข้าลึกๆ เรียกสติก่อนจัดการตัวเองต่อไป
2. ดูรายละเอียดการได้รับเงินชดเชยจากบริษัท
ถ้าถูกเลิกจ้าง ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินชดเชยจากบริษัทตามสัญญา ควรดูรายละเอียดให้ดีเพราะมีรายละเอียดตามข้อกฎหมายที่นายจ้างต้องจ่ายไม่น้อยกว่าขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนด เพราะหากเราไม่รู้ข้อกฎหมาย บริษัทอาจใช้วิธีการให้ลูกจ้างเซ็นใบลาออกแทนการเชิญออก เพราะบริษัทจะไม่ต้องเสียค่าชดเชยรายได้
3. สำรวจเงินสำรองฉุกเฉิน
สำรวจความมั่นคงทางการเงินของตัวเอง โดยทางที่ดีเราควรมีเงินสำรองฉุกเฉินไว้ใช้ระหว่างหางานในช่วง 3-6 เดือน
4. แจ้งว่างงานกับประกันสังคม
เป็นทางออกเบื้องต้นสำหรับคนตกงาน ซึ่งเราต้องไปตรวจสอบสิทธิประโยชน์ทดแทน ลงทะเบียนเป็นผู้ว่างงานกับสำนักงานประกันสังคม สำหรับรับเงินชดเชยรายเดือน ภายในเวลา 30 วันหลังจากที่เราตกงาน ซึ่งการจะได้รับเงินชดเชยว่างงานนั้น ผู้ลงทะเบียนต้องจ่ายเงินสมทบมามากกว่า 6 เดือน
5. จัดการเคลียร์เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นเงินทุนก้อนใหญ่พอสมควรที่จะมาใช้รองรับการใช้ชีวิตช่วงหลังตกงาน หากบริษัทที่ทำอยู่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้ตอนเป็นพนักงาน เมื่อออกจากบริษัทแล้วก็จะได้เงินตรงนี้มาใช้เป็นเงินฉุกเฉินชั่วคราวได้
6. ลดค่าครองชีพลง
คนตกงานก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ต้องรัดเข็มขัดตัวเองด้วยการควบคุมรายจ่ายให้น้อยลง อะไรที่ไม่จำเป็นก็อย่าเพิ่งใช้เงินซื้อ อะไรที่ใช้ได้ก็ใช้ไปก่อน อะไรที่ยังไม่จำเป็นต้องทำ ต้องไปก็ให้ชะลอเอาไว้ก่อน
7. ใช้บัตรเครดิตแบบชาญฉลาด
ในภาวะตกงานเมื่อเงินสดขาดมือ การใช้สินเชื่อจากเครดิต แม้ต้องแลกกับอัตราดอกเบี้ยก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แนะนำว่าให้ใช้กดเงินสดเอามาเพื่อใช้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุด เช่น ผ่อนค่าบ้าน ค่ารถ และไม่ควรกดมาเต็มจำนวน เอาเฉพาะส่วนที่เราขาดและคิดว่าจะหาไม่ได้จริงๆ เพื่อไม่ให้ยอดหนี้สะสมสูงจนเกินไป
8. หารายได้เสริมที่สามารถทำได้
ถ้าคุณตกงาน หนทางที่ดีที่สุดในการลดภาระชีวิต คือการหารายได้เสริม งานอะไรก็ได้ที่จะทำให้คุณมีรายได้ เหมือนกับคำโบราณที่ว่าไว้ อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา
9. ฝากประวัติสมัครงานตามเว็บไซต์
ควรฝากประวัติสมัครงานตามเว็บไซต์ อย่างเว็บ aSearcher และขอแนะนำว่าให้อัปเดตเรซูเม่ ทำประวัติย่อ รวบรวมผลงานที่เรามี จัดทำเป็น Portfolio ที่เข้าใจง่ายและแสดงความเป็นตัวตนของเราได้ชัดเจน ซึ่งหากเรามีผลงานดีจริง มีความสามารถจริงๆ จะต้องมีบริษัทที่เขาสนใจและอยากได้ตัวเราไปร่วมงานอย่างแน่นอน
10. หางานใหม่
คุณจะต้องเดินหน้าหางานใหม่ต่อไป ระหว่างที่รอการตอบกลับจากบริษัท อาจลงเรียนคอร์สเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาทักษะการทำงาน หรือลงเรียนคอร์สที่เป็นงานอดิเรกเพื่อว่าจะสามารถนำมาหารายได้ชั่วคราวระหว่างการว่างงานได้อีกด้วย
-
5 วิธีเอาตัวรอดจากโควิด ทำยังไงดี? ถ้ายังต้องเดินทางด้วยรถสาธารณะ
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ยังต้องออกไปทำงานข้างนอกบ้าน ไม่ว่าจะในรูปแบบไหนก็ตาม วันนี้เราก็มี 5 วิธีเอาตัวรอดจากโควิด ถ้ายังต้องเดินทางไปทำงานด้วยรถสาธารณะ มาฝากทุกคนกันค่ะ จะมีอะไรบ้างนั้น? ไปดูกันเลย
-
9 สกิลการทำงานใหม่ที่ทั่วโลกต้องการ หลังหมดโควิด
หลังจากที่ทั่วโลกเริ่มพ้นจากวิกฤตการแพร่ระบาดของ COVID-19 กันแล้ว ซึ่งในหลายๆ ประเทศก็มีผู้ติดเชื้อน้อยลง และเมื่อโลกเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ สกิลต่างๆ ในการทำงานที่ทั่วโลกต้องการหลังหมดโควิดก็ได้เปลี่ยนแปลงไป
-
แนะนำวิธีจัดโต๊ะทำงานให้ห่างไกลจากโควิด
ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 แบบนี้การรักษาความสะอาดถือเป็นสิ่งที่ชาวออฟฟิศควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการทำความสะอาดและการจัดโต๊ะทำงานเพื่อให้เราห่างไกลจากโควิดก็เป็นการลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ