มาเรียนรู้ 8 วิธีการ Work From Home ให้ได้งานแบบปังๆ กันเถอะ !!

ในช่วงเวลาที่ทุกคนทำงานอยู่ที่บ้านกันแบบนี้ แน่นอนว่าก็จะมีคนที่รู้สึกว่าการทำงานนั้นสบายมากขึ้น เพิ่มเวลาชีวิตให้กับตัวเอง แต่บางคนก็อาจจะรู้สึกว่าตัวเองทำงานได้เฉื่อยมากขึ้น บรรยากาศไม่ได้ ไม่เหมือนออฟฟิศเลย อยากจะเรียนรู้การเพิ่มพลังในการทำงานที่บ้าน ดังนั้นในวันนี้เราจะมาแนะนำ 8 วิธีที่จะ Work From Home ให้ได้งานแบบปังๆ กัน

การทำงานที่บ้านนั้น มีประโยชน์หลายข้อที่เรามองว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้น อย่างแรกก็คือทุกคนไม่ต้องเหนื่อยกับการต้องตื่นแต่เช้ามืดเพื่อเดินทางไปทำงาน แค่เราตื่นก่อนเวลาเริ่มงานเพียงครึ่งชม.ก็สามารถพร้อมทำงานแล้ว แถมแต่งตัวอย่างไรก็ได้ไม่ต้องกังวล รวมถึงพอเลิกงานก็สามารถพักได้ทันที ไม่ต้องเหนื่อยเดินทางกลับ เห็นไหมครับว่าสิ่งเหล่านี้ช่วยลดความเหนื่อยล้าทางกาย ช่วยให้เราทำงานได้ดีขึ้นนั่นเอง

Work From Home ให้ได้งานปังๆ ด้วย 8 วิธีนี้ !!

สำหรับหลายคนที่อยากจะ Work From Home ให้ได้งานปังๆ นั้น เรามี 8 วิธีมาแนะนำทุกคนกันครับ

เตรียมพร้อมตั้งแต่เริ่มงาน

ก่อนจะเริ่มงานของวัน เตรียมตัวเราให้พร้อมด้วยการอาบน้ำและกินข้าวให้เรียบร้อย ทำร่างกายและสมองให้สดชื่น เปิดคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้พร้อม จากนั้นก็รายงานตัวตามที่บริษัทกำหนด แล้วก็เริ่มลงมือทำงานได้เลย โดยอาจจะมีการเขียนแพลนคร่าวๆ ของงานประจำวันเพื่อกำหนดขอบเขตงานที่ต้องทำในวันนี้ เพื่อเราจะได้หาวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการทำงาน และมั่นใจว่าเราจะทำงานได้ตามเป้า (หรือเกินเป้า) ด้วย

จัดโต๊ะทำงานให้น่านั่ง

โต๊ะทำงานไม่ว่าจะที่ออฟฟิศหรือที่บ้าน หากวางของไว้เต็มจนรกก็คงจะไม่น่านั่งใช่ไหมล่ะครับ ดังนั้นมาจัดโต๊ะทำงานกัน ด้วยการเคลียร์เอกสาร จัดวางให้เป็นระเบียบ วางของให้เป็นที่ ทิ้งสิ่งที่ไม่จำเป็น หาไม้ประดับเล็กๆ มาวางสักต้น เพื่อเพิ่มความสวยงามให้โต๊ะทำงาน หรืออาจจะใช้หลักฮวงจุ้ยเพื่อเพิ่มพลังในการทำงานก็ได้นะครับ

ไม่ทำงานบนที่นอน

แน่นอนว่าเมื่อเป็นการทำงานที่บ้าน เราสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ตามใจเรา หลายคนก็อาจจะเลือกหิ้วโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กขึ้นไปนั่งทำงานบนเตียงนอน แต่คำแนะนำของเราคือไม่ควรจะไปนั่งทำงานบนที่นอนนะครับ อย่างแรกเลยคือเป็นการกันสัดส่วนระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัว ให้งานอยู่แต่ที่โต๊ะเท่านั้น ที่นอนก็คือการพักผ่อน อีกอย่างคือการทำงานบนที่นอน เราอาจจะได้นอนมากกว่าได้งาน ดังนั้น ทำงานบนโต๊ะกันเถอะครับ

พักผ่อนเป็นระยะ

การทำงานอยู่ที่บ้านนั้น ไม่ควรจะเคร่งเครียดมากจนเกินไปเหมือนกันการทำงานในออฟฟิศ เราควรจะหาเวลาพักหรือทำกิจกรรมอื่นบ้างเป็นช่วงๆ (แต่ไม่ควรนานจนเกินไป) เช่น ทำงานเสร็จไปแล้วส่วนหนึ่ง ก็ลุกขึ้นไปเอาผ้าลงถังซัก รดน้ำต้นไม้ เดินเล่น กรอกน้ำ พักสายตาจากคอมพิวเตอร์ชั่วคราว แล้วจึงกลับมาทำงานใหม่อีกครั้ง เพื่อที่จะได้ไม่เครียดจนเกินไป

กำหนดเวลาพักกินข้าว

การอยู่บ้าน แน่นอนว่าเราจะกินข้าวตอนไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องไปพักเป็นเวลาอย่างตอนทำงานอยู่ที่ออฟฟิศ แต่เราก็ควรที่จะกำหนดเวลากินข้าวของเราในแต่ละวันให้สอดคล้องกับเวลาทำงาน เช่น กำหนดไว้ว่าเราจะกินข้าวซักประมาณบ่ายโมงของทุกวัน จะช่วยให้เราแบ่งเวลาในการทำงานที่บ้านเป็นสัดเป็นส่วนได้มากขึ้น แต่ใช้จริงอาจจะปรับเปลี่ยนตามความหิวและควาามเครียดของเราในแต่ละวันก็ได้

เตรียมพร้อมสำหรับการสื่อสารแบบออนไลน์

สิ่งที่สำคัญที่สุดของการทำงานที่บ้านนั่นก็คือการสื่อสารแบบออนไลน์ เพราะเป็นช่องทางหลักของการติดต่องานในช่วงนี้เลยก็ว่าได้ ดังนั้นเราควรพร้อมรับแจ้งเตือนข้อความเกี่ยวกับงานอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ต้องถึงขนาดว่าจ้องแชทตลอดเลย เพียงแค่ติดตามเป็นระยะๆ ว่ามีการพูดคุยอะไร และเข้าไปสนทนาในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเราโดยตรงก็เพียงพอแล้ว

ขาดอะไรให้หาเพิ่ม

พนักงานบางคนที่ทำงานอยู่บ้าน ก็อาจจะขาดอุปกรณ์บางอย่างไป ที่ทำให้การทำงานนั้นไม่สะดวก ในข้อนี้วิธีแก้ก็อาจจะขออุปกรณ์เพิ่มจากบริษัทที่เราทำงานอยู่ เช่น หากเราใช้โน๊ตบุ๊คทำงานอยู่ที่บ้าน แล้วขนาดหน้าจอเล็กจนทำให้ทำงานไม่สะดวก ไม่ชินเพราะที่ออฟฟิศมีจอใหญ่ ทำงานแบบ Multitask ได้ ก็อาจจะติดต่อกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อขอยืมอุปกรณ์มาใช้ชั่วคราวได้ กลับไปทำงานที่ออฟฟิศเมื่อไหร่เราก็แค่คืน

หมดเวลางานแล้วหยุดพัก

สิ่งนี่ถือว่าเป็นสิ่งสุดท้ายที่ควรทำของวัน เมื่อหมดเวลางานที่บริษัทกำหนดไว้ ก็ให้เราหยุดพักงานประจำวันนั้นทันทีในกรณีที่เราทำงานได้ครบถ้วนแล้ว แต่หากยังไม่เสร็จ ให้รีบทำให้เรียบร้อยภายในระยะเวลาที่สั้นที่สุด แล้วใช้เวลาทั้งหมดที่มีหลังเลิกงานไปกับการพักผ่อน เพราะถ้ายังทำงานต่อ อาจจะรบกวนจนทำให้ Work life Balance ของเราผิดแปลกไปได้

นี่ก็เป็นแนวทางที่จะช่วยให้การทำงานที่บ้านได้ผลลัพธ์แบบปังๆ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ควรใส่ใจคือในเรื่องการสื่อสาร ซึ่งควรจะมีความชัดเจนในทุกอย่าง สิ่งนี้จะช่วยให้งานเราประสบความสำเร็จได้แบบสุดๆ และได้คุณภาพในแบบที่บริษัทต้องการ เพราะหากไม่ใส่ใจ จากงานปังๆ อาจจะเป็นงานแป๊กๆ และเสี่ยงต่อความมั่นคงในหน้าที่การงานของเราได้ ดังนั้น หากอยากได้ผลลัพธ์ของงานแบบปังๆ อย่าลืมนำ 8 ข้อนี้ไปปรับใช้กันนะครับ