พาไปรู้จักกับสัญญาณ WiFi ให้มากขึ้น !! มีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไร?

พาไปรู้จักกับสัญญาณ WiFi ให้มากขึ้น !! มีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไร?

รู้จัก, สัญญาณ, Wifi, คืออะไร, อินเทอร์เน็ต, เทคโนโลยี, การเชื่อมต่อ, ขอบเขตสัญญาณ, มาตรฐาน

Technology ที่สำคัญในวงการ Internet ในปัจจุบัน คงจะหนีไม่พ้นสิ่งนี้ ที่ทุกคนรู้จักกันดี นั่นก็คือสัญญาณ “Wifi” ที่เป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของใครหลายคนเลยก็ว่าได้ เพราะถ้าไม่มีสิ่งนี้หลายคนอาจจะไม่ได้เล่นเน็ตความเร็วสูงในสถานที่ต่างๆ ได้แบบไม่ต้องห่วงว่าดาต้าจะหมด (นอกเสียจากจะใช้ 4G ซึ่งก็จำกัดปริมาณการใช้) และบางครั้งเวลาไปสถานที่ต่างๆ ก็จะสังเกตเห็นว่า ทำไมไวไฟชื่อเดียวกัน แต่มีสัญญาณหลายแบบ หลายชื่อ 2.4GHz หรือ 5GHz มันแตกต่างกันอย่างไร วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกันครับ

ถ้าหากมีคำถามว่า Wi-Fi คืออะไรนั้น ไวไฟเป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาในการเชื่อมต่อ Internet จากเดิมที่ต้องเชื่อมต่อผ่านสายแลนโดยเสียบเข้ากับตัวคอมพิวเตอร์ และได้เพียง 1 เครื่องต่อการเชื่อมต่อเท่านั้น เมื่อมีการพัฒนาไวไฟขึ้นมา จึงทำให้สามารถเชื่อมต่อแบบไร้สายได้ และสามารถเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ได้อิสระ โดยไวไฟนั้นรับสัญญาณ Internet จากสาย LAN เช่นเดิม แต่จะมีตัวอุปกรณ์ Router ที่เป็นตัวปล่อยคลื่นวิทยุสำหรับกระจายสัญญาณ โดยสามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกันหลายเครื่อง และไม่จำเป็นต้องวางอุปกรณ์อยู่กับที่ตลอดเวลา ทำให้การใช้งานคอมพิวเตอร์นั้นสะดวกสบายมากขึ้น เรียกได้ว่าตั้งแต่พัฒนาไวไฟออกมา ไวไฟได้รับความนิยมมาก เรามักจะพบการใช้ไวไฟตามบ้านเรือน สถานศึกษา ห้องสมุด อาคารสำนักงาน และในห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศเลยก็ว่าได้ แต่ไวไฟนั้นไม่ได้มีเพียงแค่คลื่นความถี่เดียว แต่มีหลากหลายพอสมควร ซึ่งเรามักจะเห็นกันบ่อยๆ ก็คือคลื่น 2.4 GHz และ 5 GHz แต่รู้ไหมครับว่าในตอนนี้มีไปถึงไวไฟ 6 กันแล้ว

 

สัญญาณ WiFi มีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไร?

รู้จัก, สัญญาณ, Wifi, คืออะไร, อินเทอร์เน็ต, เทคโนโลยี, การเชื่อมต่อ, ขอบเขตสัญญาณ, มาตรฐาน

สำหรับสัญญาณ WiFi จะมีกี่แบบ และแตกต่างกันอย่างไรนั้น เราไปดูรายละเอียดกันเลยครับ

 

ประเภทของสัญญาณ Wi-Fi

 

สัญญาณไวไฟ จะมีเลขมาตรฐานของคลื่นคือ 802.11 และตามด้วยตัวอักษร a/b/g/n/ac/ax ซึ่งเป็นการระบุ Class ของสัญญาณไวไฟที่มีผลต่อความเร็วโดยตรง โดย Class เหล่านี้เป็นการแบ่งประเภทตามเกณฑ์ของ IEEE (Institute of Electrical and Electronics Engineers) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลด้านการกำหนดมาตรฐานการสื่อสารข้อมูลบนระบบคอมพิวเตอร์โดยตรง โดยมีรายละเอียดดังนี้ครับ

  • Wi-Fi 1 (802.11b) เป็นมาตรฐานของไวไฟ ซึ่งรองรับความเร็วสูงสุดที่ 1-11 Mbps และส่งสัญญาณบนคลื่น 2.4 GHz
  • Wi-Fi 2 (802.11a) เป็นมาตรฐานของไวไฟ ซึ่งรองรับความเร็วสูงสุดที่ 1.5-54 Mbps และส่งสัญญาณบนคลื่น 5 GHz
  • Wi-Fi 3 (802.11g) เป็นมาตรฐานของไวไฟ ซึ่งรองรับความเร็วสูงสุดที่ 3-54 Mbps และส่งสัญญาณบนคลื่น 2.4 GHz
  • Wi-Fi 4 (802.11n) เป็นมาตรฐานของไวไฟ ซึ่งรองรับความเร็วสูงสุดที่ 72-600 Mbps และส่งสัญญาณบนคลื่น 2.4 และ 5 GHz
  • Wi-Fi 5 (802.11ac) เป็นมาตรฐานของไวไฟ ซึ่งรองรับความเร็วสูงสุดที่ 433-6,933 Mbps และส่งสัญญาณบนคลื่น 5 GHz
  • Wi-Fi 6 (802.11ax) เป็นมาตรฐานรุ่นล่าสุดของไวไฟ ซึ่งรองรับความเร็วสูงสุดที่ 600-9,608 Mbps โดย Wi-Fi 6 จะส่งสัญญาณบนคลื่น 2.4, 5 ส่วน Wi-Fi 6E จะส่งสัญญาณที่คลื่น 6 GHz

 

คลื่น Wi-Fi แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร?

รู้จัก, สัญญาณ, Wifi, คืออะไร, อินเทอร์เน็ต, เทคโนโลยี, การเชื่อมต่อ, ขอบเขตสัญญาณ, มาตรฐาน

ในการแบ่งมาตรฐานของ Wi-Fi ออกเป็น 6 ประเภทนั้น จะเห็นได้ว่า มีสิ่งหนึ่งที่มีความแตกต่างกันอีก นั่นก็คือประเภทของคลื่น Wi-Fi ทั้ง 2.4 GHz, 5 GHz และ 6 GHz ซึ่งทั้งสามนี้จะมีความแตกต่างกันอย่างไรนั้น มาดูกันเลยครับ 

  • 2.4 GHz คลื่นประเภทนี้จะเป็นคลื่นความถี่ต่ำ ซึ่งมีรัศมีการกระจายของสัญญาณที่กว้างและไกล มีอุปกรณ์ที่รองรับเป็นจำนวนมาก แต่จะมี Bandwidth หรือช่องสัญญาณที่น้อย (11 แชนแนล) และมีความเร็วในการส่ง/รับข้อมูลที่ไม่เร็วมากนัก
  • 5 GHz คลื่นประเภทนี้จะเป็นคลื่นความถี่สูง ซึ่งมีรัศมีการกระจายสัญญาณต่ำกว่า อุปกรณ์ที่รองรับมักจะมีราคาค่อนข้างสูง แต่เป็นคลื่นที่มี Bandwidth เยอะ (23 แชนแนล) มีการถ่ายโอนข้อมูลที่รวดเร็วมาก ทำให้สามารถเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์ได้พร้อมกันโดยที่ความเร็วยังสูงอยู่
  • 6 GHz คลื่นประเภทนี้จะเป็นคลื่นความถี่ที่สูงกว่า และเป็นความถี่ที่มีอุปกรณ์รองรับน้อยมาก มีการกระจายสัญญาณที่ต่ำ แต่มีความเร็วในการเชื่อมต่อที่สูงมากกว่า 5 GHz มีค่าความหน่วงของสัญญาณน้อยมาก สามารถรองรับอุปกรณ์ได้หลายเครื่องพร้อมกันโดยที่ความเร็วไม่ตก นอกจากนั้นยังมีช่องสัญญาณที่กว้าง ลดการรบกวนกันเองของสัญญาณ Wi-Fi อีกด้วย

 

มาตรฐานของ Wi-Fi แต่ละประเภทนั้น ก็เป็นการพัฒนาที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบไร้สายได้ดีมากขั้น ทั้งในแง่ของความเร็วที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงขอบเขตสัญญาณ ถึงแม้ว่าคลื่นความถี่สูงจะมีระยะการกระจายคลื่นต่ำ แต่ก็มั่นใจได้ว่า หากเราใช้งานในพื้นที่ที่คลื่นครอบคลุม ก็จะใช้งานไวไฟได้ดีแน่นอน

บทความที่เกี่ยวข้อง
Jobs aSearcher