ทำไมใครๆ ก็อยากร่วมงานกับ Apple ?

รู้กันหรือไม่ว่าทำไม Apple ถึงเป็น Office ในฝันของคนทำงานหลายๆ คน? ซึ่งแตกต่างจากองค์กรส่วนใหญ่ที่พนักงานมักจะหมุนเวียนลาออกกันเป็นว่าเล่น บางคนก็ลาออกทั้งๆ ที่ยังไม่ผ่านช่วงทดลองงานเลยด้วยซ้ำ และการจะหาคนใหม่เข้ามาเติมเต็มในแต่ละตำแหน่งงานก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ดังนั้นองค์กรต่างๆ ควรต้องเริ่มมองหาจุดบกพร่องและแก้ไขเพื่อให้กลายเป็นองค์กรที่ใครๆ ก็อยากทำงานด้วยเหมือนอย่าง "แอปเปิ้ล" กันได้แล้ว

เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ จะโชคดีได้ร่วมงานกับองค์กรดีๆ ที่ตรงใจและได้ค่าตอบแทนสูง หรือได้เจอกับเพื่อนร่วมงานที่ดี มีหัวหน้าที่ดี มีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี ถ้าเราเกิดโชคดีขนาดนั้นขึ้นมาแล้วล่ะก็ คงต้องบอกเลยว่าเหมือนกับถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เลยล่ะ ดังนั้นถ้าองค์กรต่างๆ เริ่มปรับตัวและแก้ไขจุดบกพร่องให้กลายเป็นองค์กรที่ใครๆ ก็อยากทำงานด้วยเหมือนอย่าง "แอปเปิ้ล" ได้ล่ะก็ จะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างมาก

ทำไม "แอปเปิ้ล" ถึงเป็น Office ในฝันของคนทำงานหลายๆ คน?

เรามาดูกันดีกว่าว่าแนวทางการบริหารงานของ Apple ซึ่งเป็น Office ระดับโลกนั้น เป็นอย่างไร? ทำไมใครๆ ต่างก็อยากร่วมทำงานด้วย ซึ่งเราเชื่อว่าองค์กรต่างๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงอย่างแน่นอน โดยเหล่าพนักงานขององค์กรยักษ์ใหญ่อย่าง "แอปเปิ้ล" ก็ได้เปิดเผยความลับเกี่ยวกับการดูแลพนักงานของแอปเปิ้ลไว้ดังนี้

1. แอปเปิ้ล ทำให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญให้กับโลก

จากการให้สัมภาษณ์ของพนักงานแอปเปิ้ล พวกเขาต่างรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ให้กับโลกทั้งสิ้น การได้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างปรากฏการณ์ใหญ่ๆ ขนาดสั่นสะเทือนวงการได้ และมีผู้ร่วมติดตามนับล้านๆ คน เป็นประสบการณ์ที่มีค่าอย่างมากสำหรับกลุ่มคนทำงานที่นี่ นอกจากนั้น คำบอกเล่าของเหล่าพนักงานที่บ่งบอกถึงตัวองค์กรได้ดีอีกคำหนึ่งก็คือ องค์กรนี้ทำให้พวกเขารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ทำงานที่มีคุณค่าทั้งต่อตนเองและต่อผู้อื่นนั่นเอง

2. การทำให้พนักงานรู้สึกว่า ที่นี่เป็นแหล่งรวมของคนระดับหัวกะทิ

สตีฟ จ็อบส์ มักพูดเสมอว่า เขาต้องการพนักงานระดับ A Class มาร่วมงานด้วยเท่านั้น นั่นทำให้แอปเปิ้ลเป็นศูนย์รวมของอัจฉริยะจำนวนมาก พนักงานคนหนึ่งของแอปเปิ้ลกล่าวว่า ที่นี่มีคนเก่ง คนที่มีพรสวรรค์ในด้านต่างๆ อยู่มากมาย ซึ่งนั่นทำให้เกิดบรรยากาศการแข่งขันในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ขึ้น แต่ในท้ายที่สุดแล้ว สภาพแวดล้อมเหล่านี้จะทำให้คุณสามารถสร้างผลงานที่ดีที่สุดของคุณได้เป็นผลสำเร็จ

3. การทำให้พนักงานรู้สึกว่ากำลังทำงานกับบริษัท Start-up เกิดใหม่ มากกว่าทำงานที่องค์กรยักษ์ใหญ่

บรรยากาศของบริษัท Start-up ที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น เป็นบรรยากาศที่ช่วยดึงศักยภาพของคนทำงานออกมาได้เป็นอย่างดี แม้ว่าแอปเปิ้ลจะเป็นองค์กรที่มีมูลค่าสูงเป็นลำดับต้นๆ ของในโลก แต่การคงสภาพการทำงานในองค์กรให้เต็มไปด้วยสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์มาก และแอปเปิ้ลยังเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถย้ายไปทำสิ่งใหม่ๆ ได้ หรือจะไปเข้าคอร์สฝึกอบรม เพิ่มทักษะที่ต้องการก็ได้ โดยที่พนักงานคนนั้นยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหัวหน้าหรือเปลี่ยนสภาพการทำงานแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งรูปแบบการทำงานเหล่านี้ช่วยให้พนักงานรู้สึกเหมือนได้ "รีเฟรชตัวเอง" อยู่ตลอดเวลา

4. การให้ผลตอบแทนไม่เป็นสองรองใคร

ค่าตอบแทนที่ไม่ธรรมดาเลยของแอปเปิ้ลเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่โดนใจพนักงาน ตำแหน่งงานหลายๆ ตำแหน่งของแอปเปิ้ลนั้นได้รับผลตอบแทนสูงกว่าผลตอบแทนเฉลี่ยขององค์กรในอุตสาหกรรมเดียวกัน อย่างไรก็ดี มีพนักงานบางส่วนที่โชคร้าย ไม่ได้รับผลตอบแทนในรูปแบบเดียวกันนี้ นั่นก็คือพนักงานที่ประจำอยู่ในร้านค้าปลีกของแอปเปิ้ลนั่นเอง ซึ่งในอนาคตอันใกล้ ทางองค์กรมีแผนจะยกระดับค่าตอบแทนให้กับพนักงานกลุ่มนี้แล้วด้วย

5. พนักงานพาร์ทไทม์ได้ผลตอบแทนไม่แพ้พนักงานประจำ

แม้จะมีเสียงบ่นจากพนักงานที่ทำงานอยู่ตาม Apple Store เกี่ยวกับผลตอบแทนที่ได้รับไม่เท่าเพื่อนพนักงานในสำนักงานใหญ่ แต่สำหรับพนักงานพาร์ทไทม์ของแอปเปิ้ล หากทำงานตั้งแต่ 20 ชั่วโมงขึ้นไปต่อสัปดาห์ก็มีตัวเลขว่าพวกเขาได้รับค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

6. ทำงานกับแอปเปิ้ลได้ ทำงานที่ไหนก็ได้

การได้เข้าทำงานที่แอปเปิ้ลอาจเป็นบทพิสูจน์ถึงความสามารถของพนักงานคนนั้นได้กลายๆ และนั่นทำให้เมื่อพวกเขาต้องการย้ายงาน ก็สามารถทำได้ง่ายมากขึ้น

"หากคุณสามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ ประสบการณ์นั้นจะทำให้คุณเปลี่ยนทัศนคติในการมองโลก และด้วยประสบการณ์นั้นจะช่วยให้คุณสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ในโลกใบนี้" วิศวกรซอฟต์แวร์รายหนึ่งกล่าว

7. มีอาหารดีๆ รออยู่

แม้ว่าแอปเปิ้ลจะไม่ได้เตรียมโรงอาหารชั้นเลิศไว้เอาใจพนักงานเหมือนเช่นที่กูเกิลและเฟซบุ๊กทำ แต่ชื่อเสียงของ Caffè Macs ในสำนักงานใหญ่ก็ถูกใจพนักงานจำนวนไม่น้อย และทางองค์กรกำลังมีแผนจะปรับปรุงห้องอาหารเพิ่มเติมในอีก 2-3 ปีนี้ด้วย

8. ดูแลความสะดวกด้านการเดินทางของพนักงานเป็นอย่างดี

การเดินทางมาทำงานที่แอปเปิ้ลนั้น ทางองค์กรได้มีบริการรถรับส่งพนักงานจากย่าน Bay Area มายังแคมปัสใน Cupertino นอกจากนั้นยังมีเงินส่วนหนึ่งสำหรับดูแลค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ รถบัส ฯลฯ ให้กับพนักงานอีกด้วย

9. สนุกและท้าทาย เมื่อต้องเร่งงานให้ทันกำหนดเส้นตาย

การทำงานในองค์กรผู้ผลิตสินค้าที่มีคนรอชมการเปิดตัวสินค้าใหม่นับสิบล้านคนย่อมต้องอยู่ภายใต้ความกดดันสูงเป็นธรรมดา โดยเฉพาะยิ่งเมื่อใกล้ถึงวันส่งมอบงาน แต่พนักงานของแอปเปิ้ลหลายคนกลับบอกว่า การได้เป็นส่วนหนึ่งของบรรยากาศนั้นเป็นประสบการณ์ที่สุดยอดมาก

ดังเช่นที่วิศวกรรายหนึ่งกล่าวว่า "แม้จะไม่มีเวลาพักหายใจในระหว่างทำโปรเจ็คเลย แต่ผมชอบความรู้สึกที่ได้รับเมื่อเราสามารถทำงานได้สำเร็จตามเป้าหมาย มันยอดเยี่ยมมาก"

10. บริษัทยังคงเติบโต มีอนาคตที่สดใสและมีพนักงานใหม่เข้ามาเสริมทีมอย่างต่อเนื่อง

ในขณะที่องค์กรยักษ์ใหญ่เช่นไมโครซอฟต์กำลังเริ่มเลย์ออฟพนักงาน แต่ที่แอปเปิ้ล การจ้างงานยังคงมีอย่างต่อเนื่อง มีแผนกใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย รวมถึงตลาดใหม่ๆ ที่องค์กรมีแผนจะก้าวไปต่อ ซึ่งการเติบโตลักษณะนี้ มีผู้เชี่ยวชาญในแวดวงธุรกิจกล่าวยกย่องเอาไว้ว่า การได้เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตของแอปเปิ้ลนี้เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมาก

11. การมีผู้นำองค์กรที่ยอดเยี่ยม

แม้ว่าคะแนนความนิยมในตัว "ทิม คุก" อาจยังห่างชั้นกับ "สตีฟ จ็อบส์" อยู่มาก แต่เขาก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างท่วมท้นจากพนักงาน ซึ่งมีรายงานว่าเขาได้คะแนนในบทบาทการเป็นผู้นำองค์กรถึง 94 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

12. การให้อิสระในการทำงาน ไม่หยุมหยิม

แอปเปิ้ลอาจเป็นองค์กรที่มีการควบคุมภายในเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาโปรดักต์ แต่จากคำให้สัมภาษณ์ของพนักงานหลายๆ คน พวกเขากลับรู้สึกว่า ตนเองมีอิสระในงานที่รับผิดชอบพอสมควร รวมถึงได้รับความเชื่อใจจากหัวหน้างานในระดับที่น่าพึงพอใจ

วิศวกรซอฟต์แวร์ QA รายหนึ่งกล่าวว่า ที่นี่ไม่มีการบริหารแบบล้วงลูก (Micromanagement) ที่หัวหน้างานลงมาควบคุมงานอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ดี ในอนาคตอันใกล้ รูปแบบการบริหารงานอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากแอปเปิ้ลพบว่า มีบางแผนกที่ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดมากขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก Business Insider, SET ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย