Tablet อเนกประสงค์รุ่นแนะนำ สำหรับคนเพิ่งเริ่มงาน พกง่าย ทำงานได้ครบ

Tablet ปัจจุบันได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานในหลากหลายวัยและกลุ่ม ทั้งวัยเรียน ที่ใช้เพื่อการศึกษา ทั้งจดบันทึก อ่านเอกสารประกอบการสอน หาข้อมูลเกี่ยวกับการเรียน หรือใช้ทำรายงานส่งก็ได้ และวัยทำงาน ที่สามารถใช้ทำงานเอกสาร จดบันทึกการประชุม หรือใช้ในการนำเสนองาน นอจากใช้เพื่อทำสิ่งต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว ก็สามารถใช้เพื่อความบันเทิงได้ด้วยเช่นกัน ถือว่าแท็บเล็ตในปัจจุบันทำงานได้อเนกประสงค์มาก และสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มงานนั้น แท็บเล็ตก็ถือว่าเหมาะเป็นอย่างยิ่ง เพราะเมื่อเทียบกับ Notebook แล้ว แท็บเล็ตนั้นถือว่าได้สเปคที่ดีกว่าและพกพาง่ายกว่าด้วย

สำหรับคนที่กำลังมองหาแท็บเล็ตสักรุ่นนั้น ก็คงจะสงสัยว่า เราควรจะซื้อรุ่นไหนดีนะ เพราะปัจจุบันแท็บเล็ตก็ถือว่ามีหลากหลายรุ่น แถมราคาก็แตกต่างกัน ซึ่งการเลือกซื้อเราอาจจะพิจารณาจากประเภทของงานที่เราจะใช้ทำ เพราะแท็บเล็ตแต่ละรุ่นก็จะเหมาะสำหรับงานที่แตกต่างกันไป เช่น งานเอกสารนั้นแท็บเล็ตทั่วไปก็ทำได้แทบทั้งหมด แต่ถ้าเป็นงานกราฟิกที่ต้องใช้สเปกเครื่องมากๆ หรืองานสายไอทีที่ต้องใช้โปรแกรมที่มาเฉพาะ แท็บเล็ตทั่วไปอาจจะไม่ตอบโจทย์นัก เราก็อาจจะมองดูแท็บเล็ตที่สเปกสูงขึ้น

แท็บเล็ตอเนกประสงค์รุ่นแนะนำสำหรับคนเพิ่งเริ่มงาน

บางครั้งที่เพิ่งได้เริ่มทำงานก็อาจจะรู้สึกไม่อยากพกโน๊ตบุ้คไปทำงาน อาจจะด้วยความที่โน๊ตบุ๊คหนัก พกพาไม่สะดวก ก็เลยมองหาแท็บเล็ตที่ทำงานได้อเนกประสงค์ สเปกค่อนข้างดีกว่าเมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คที่ราคาเท่ากัน และที่สำคัญคือพกพาง่ายมาก หยิบเครื่องเดียวเดินเข้าบริษัทไปเริ่มงานได้เลย ก็ลองมาดูกันว่าเรามีรุ่นอะไรมาแนะนำบ้าง

iPad รุ่นที่ 7

iPad รุ่นที่ 7 เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายน 2019 ที่ผ่านมา โดยรองรับทั้ง Apple Pencil (รุ่นที่ 1) และรองรับ Smart Keyboard แล้ว ส่วนของสเปกนั้นก็ถือว่าดี ใช้ชิพ A10 Fusion ที่ทำงานได้รวดเร็ว พร้อมหน้าจอขนาด 10.2 นิ้ว ใหญ่เต็มตา ตัวเครื่องที่บางเบา น้ำหนักเพียง 483 กรัม พกพาง่าย พร้อมฟีเจอร์ใหม่บน iPad OS ที่ความสามารถเกือบเทียบเท่าโน๊ตบุ๊ค แถมราคาเริ่มต้นก็ถูกมาก เพียง 10,900 บาทเท่านั้น

iPad Air รุ่นที่ 3 (2019)

iPad Air รุ่นที่ 3 (2019) ถือว่าเป็นรุ่นที่สเปกค่อนข้างดีกว่า iPad รุ่นที่ 7 ด้านบนอยู่พอสมควร ทำให้สามารถใช้ทำงานที่ต้องการสเปกสูงๆ ได้ โดยพร้อมกับหน้าจอขนาด 10.5 นิ้ว แสดงผลสีสันได้ตรง เหมาะกับงานกราฟิก ชิพ Apple A12 ที่เร็วและแรงในทุกการใช้งาน น้ำหนัก 456 กรัม และความบางเพียงแค่ 6.1 มิลลิเมตร พกพาง่าย นอกจากนั้นก็รองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 1 และ Smart Keyboard ส่วนของราคาก็จะแพงขึ้นมา เริ่มต้นที่ 17,900 บาท

Samsung Galaxy Tab S6

สำหรับแท็บเล็ตรุ่นนี้มาจากฝั่ง Android ที่ถือว่าก็ได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียว ด้วยหน้าจอ Super AMOLED สีสันสดใสขนาด 10.5 นิ้ว รองรับปากกา S Pen ที่ใช้งานได้ดีทั้งจด เขียน วาดรูป รวมถึงชิพ Qualcomm Snapdragon 855 ที่รวดเร็วสุดๆ นอกจากนั้นยังรองรับ Samsung Dex ที่เปลี่ยนหน้าตา UI และการใช้งานให้เหมือนกับคอมพิวเตอร์นั่นเอง ในส่วนของราคาอาจจะมากกว่า iPad ไปพอสมควร โดยเริ่มต้นอยู่ที่ 25,900 บาทในร้านค้าทางการ ส่วนของร้านค้าออนไลน์จะอยู่ที่ประมาณ 21,000-22,000 บาท

Microsoft Surface Pro 7

สำหรับ Microsoft Surface Pro 7 เรียกว่าแท็บเล็ตได้ไม่เต็มปากสักเท่าไหร่ เพราะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows ทำให้สามารถใช้งานได้เหมือนกับคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊คในขนาดที่เทียบเท่ากับ Tablet สเปกก็ถือว่าดีเลย เพราะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 12.3 นิ้ว ซีพียู Intel Core รุ่น 10 ที่มั่นใจได้ว่าเร็วและแรง นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับการเชื่อมต่อต่างๆ เหมือนโน้ตบุ๊ค เช่น พอร์ต USB-A และ USB-C และน้ำหนักที่ 775 กรัม อาจจะหนักกว่าแท็บเล็ต 2 รุ่นข้างบนไปบ้าง แต่ก็เบากว่าโน๊ตบุ้ค โดยราคาเริ่มต้นนั้นอยู่ที่ประมาณ 29,900 บาท อาจจะแพงไปนิดแต่ถือว่าใช้งานได้ครบแบบโน้ตบุ๊คในขนาดที่พกพาง่ายมาก

สำหรับแท็บเล็ตที่แนะนำไปด้านบนนั้น ก็จะมีทั้งแท็บเล็ตราคาประหยัดที่ทำงานได้หลากหลาย ไปจนถึงแท็บเล็ตสเปกจัดเต็มที่ทำงานได้ดีตั้งแต่งานทั่วไปจนถึงงานระดับสูง จึงทำให้ราคานั้นอาจจะมีความแตกต่างกันไปตามการใช้งานและสเปก แต่สิ่งที่แท็บเล็ตทุกเครื่องมีเหมือนกันคือการที่พกพาสะดวก นอกจากนั้นแต่ละรุ่นก็ยังรองรับอุปกรณ์เสริมหลายอย่างที่มีเพื่อช่วยให้เราทำงานได้สะดวกสบายมากขึ้น เราจึงมองว่าแท็บเล็ตเหล่านี้เหมาะสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มทำงานนั่นเอง