วิธีการเลือกซื้อ Notebook ?

คงต้องบอกเลยว่าวิธีการเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คสักเครื่องหนึ่งของมนุษย์เงินเดือนนั้น อาจจะต้องใช้เวลาเลือกและพิจารณาเปรียบเทียบอย่างรอบคอบ เพื่อให้มีความคุ้มค่ามากที่สุด! เพราะปัจจุบัน Notebook มีรุ่นให้เลือกมากมายหลากหลายสเปค ต่างราคา ตามแต่ละแบรนด์จะกำหนด แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรล่ะ? ว่ารุ่นไหนที่คุณควรเลือกซื้อมาใช้งาน หรือไม่ควรซื้อมาใช้งาน และเหมาะกับการใช้งานหรือไม่เหมาะกับการใช้งานของคุณกันแน่?

เนื่องจากวงการ Notebook นั้นเป็นวงการที่มีการเปลี่ยนแปลงและอัปเดตอยู่ทุกปีเช่นเดียวกับสมาร์ทโฟน ซึ่งทุกวันนี้ Notebook มีสเปคที่แรงขึ้น แต่น้ำหนักเบาลง และแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้นานขึ้นกว่าเดิมมาก แถม Notebook เครื่องนึงก็ไม่ใช่ถูกๆ จะเลือกซื้อทั้งทีก็ต้องให้ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด!

8 ข้อที่ควรรู้! ก่อนตัดสินใจซื้อโน๊ตบุ๊คสำหรับมนุษย์เงินเดือน

สำหรับใครที่ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกซื้อ Notebook รุ่นไหนดี? วันนี้เรามีวิธีการเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คสำหรับมนุษย์เงินเดือนมาฝากค่ะ เพื่อเป็นแนวทางให้คุณได้ตัดสินใจเลือกซื้อ Notebook ที่โดนใจ ตรงสเปค และคุ้มค่ากับการใช้งานมากที่สุด

1. CPU

หน่วยประมวลผลกลางหัวใจสำคัญของโน๊ตบุ๊ค จะเร็วจะช้า จะเล่นเกมหรือทำงานก็ต้องเลือกให้ตรงกับการใช้งาน ปัจจุบันมีให้เลือกอยู่ 2 แบรนด์คือ Intel และ AMD โดยทาง Intel CPU รุ่นชั้นนำคือ Core i3 i5 i7 โดยรหัสตามหลังส่วนมากในโน๊ตบุ๊คจะเป็นตัว U หมายถึงโน๊ตบุ๊คประหยัดพลังงาน และตัว H จะเป็นตัวประสิทธิภาพสูง ส่วนมากจะอยู่ในโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง ในส่วนของ AMD จะเป็นรุ่น Ryzen 3 5 7 ตามลำดับ คล้ายคลึงกับของ Intel โดยหากพูดกันตามตรงและเปรียบเทียบแบบคร่าวๆ แล้วก็คือ

- Intel Core i3 และ AMD Ryzen 3 เหมาะกับนักเรียนหรือสายทำงานทั่วไปที่ใช้ในงานค้นหาข้อมูลหรือทำรายงาน รวมไปถึงการดูหนังฟังเพลงหรือติดตามสื่อ Entertainment ต่างๆ ทั้งนี้ยังเอาไปเล่นเกมได้บ้างเล็กๆ น้อยๆ
- Intel Core i5 และ AMD Ryzen 5 เป็นรุ่นที่ฮิตมากที่สุดในตลาดตอนนี้ เหมาะกับการทำงานที่ต้องการความรวดเร็วและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น โดย CPU บางตัวในซีรี่ย์นี้แรงพอที่จะนำไปเล่นเกมหรือดูหนังที่มีความคมชัดสูงแล้วเช่นกัน
- Intel Core i7 และ AMD Ryzen 7 ก็เป็นอีกหนึ่งความแรงที่เพิ่มเติมมาจากซีรี่ย์ 5 ซึ่งก็จะมีความเร็วในการประมวลผลและการทำงานโดยรวมที่รวดเร็ว และได้ประสิทธิภาพดีเยี่ยมไปอีกขั้น

2. Graphic Card

การ์ดจอเป็นตัวช่วยสำหรับประมวลผลภาพซึ่งจะเล่นเกมได้ดีขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับการ์ดจอเป็นส่วนใหญ่โดยรุ่นที่ท็อปฮิตตอนนี้แบ่งคร่าวๆ คือ

- สายทำงาน Nvidia จะเป็น MX150, MX230, MX250 หรือ GTX1050 ในฝั่ง AMD ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ Integrated Graphics ที่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการทำงานทั่วไป เช่น Radeon 530 เป็นต้น
- สายเกม ในปัจจุบันการ์ดจอของโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งพัฒนาจนมีความประสิทธิภาพใกล้เคียงกับการ์ดจอบน PC แล้ว การเลือกการ์ดจอในโน๊ตบุ๊คจึงเป็นเรื่องง่าย โดยทาง NVIDIA มีการ์ดจอแนะนำ เช่น GTX1650, GTX1660Ti, RTX2060 ส่วนในฝั่ง AMD นั้นก็มี RX560X และ RX5500M

*เกร็ดน่ารู้ ปัจจุบันหากเป็นโน๊ตบุ๊คทำงานทั่วไปไม่จำเป็นต้องมี Graphic Card ก็ได้เพราะการ์ดจอออนบอร์ดรุ่นใหม่มีการประสิทธิภาพสูงกว่าในอดีตมาก

3. Display Screen

ขนาดของหน้าจอโน๊ตบุ๊ค โดยจอใหญ่ก็จะทำงานดูหนังได้เต็มตา แต่ก็แลกมากับขนาดและน้ำหนักของโน๊ตบุ๊คที่ใหญ่ขึ้น ส่วนจอเล็กๆ ก็จะพกพาสะดวกน้ำหนักเบานำไปทำงานนอกสถานที่ได้ง่าย โดยปัจจุบันโน๊ตบุ๊คส่วนมากจะมีขนาดหน้าจอที่ 14 นิ้ว 15.6 นิ้ว และ 17.3 นิ้ว ส่วนความละเอียดก็มีตั้งแต่ HD (1280x720) และ Full-HD (1920x1080) ไปจนถึง 4K (3840x2160)

*เกร็ดน่ารู้ โน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่มักจะมาพร้อมขอบจอบางทำให้ขนาดของตัวเครื่องเล็กลง เช่น โน๊ตบุ๊คจอขนาด 15.6" แต่ตัวเครื่องมีขนาดแค่ 14" ทำให้เราสามารถพกพาโน๊ตบุ๊คจอใหญ่ได้ง่ายยิ่งขึ้น

4. Ram

หน่วยความจำชั่วคราวช่วยในการทำงาน เพิ่มความเร็วในการเขียน/อ่านข้อมูลมีความจุหลากหลายตั้งแต่ 4GB, 8GB และ 16GB ขึ้นไป ทั้งนี้ในปัจจุบันสำหรับการทำงานหรือเล่นเกมทั่วไปมักใช้กันอยู่ที่ 8-16GB โดยโน๊ตบุ๊คส่วนใหญ่จะให้ Ram มา 8GB หรือบางรุ่นที่เป็นโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งเลยอาจให้มาถึง 16GB แต่ Ram เป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนที่สามารถเพิ่มหรือเปลี่ยนได้ตามความต้องการเหมือน Harddisk

5. HDD / SSD

อุปกรณ์สำหรับเก็บข้อมูลทุกอย่างในเครื่อง โดยปัจจุบันในตัวโน๊ตบุ๊คมักติดตั้ง SSD มาจากโรงงานเลย ทำให้การใช้งานโน๊ตบุ๊คไม่ว่าจะเปิดเครื่องหรือเปิดโปรแกรมก็รวดเร็วกว่าแต่ก่อน เพราะตัว SSD มีความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูลที่สูงมาก ทำให้การเรียกใช้งานหรือดึงไฟล์งานเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว แม้โน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นจะมีความจุเพียง 128-256GB แต่สำหรับการทำงานทั่วไปมันก็เพียงพอแล้ว หรือหากใครเป็นสาย Gamer อาจจะลำบากนิดนึง โดยควรหาโน๊ตบุ๊คที่มาพร้อม SSD 512GB ขึ้นไป หรือไม่ก็ต้องซื้อ SSD มาเปลี่ยนเพราะเดี๋ยวนี้ตัวเกมต่างๆ มีขนาดใหญ่มากขึ้น

- HDD หรือ Harddisk โดยทั่วไปจะมีราคาถูกความจุเยอะแต่ความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูลไม่สูงมากนัก ปัจจุบันยังใส่มาในโน๊ตบุ๊คระดับเริ่ม
- SSD หรือ Solid State Drive เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลรุ่นใหม่ที่มีความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูลสูงมาก ในบางรุ่นอาจสูงกว่า HDD แบบธรรมดาถึง 10 เท่า

6. Port & Interface

มาเริ่มจากพอร์ต USB กันก่อน ซึ่งเป็นพอร์ตที่ใช้สำหรับส่งถ่ายข้อมูลแบบอนุกรมที่ได้รับความนิยมสูงสุด มีใช้ในอุปกรณ์ต่อเชื่อมแทบทุกชนิด ด้วยความสามารถเด็ดคือ Plug & Play คือสามารถใช้งานได้ทัน ปัจจุบันใช้ USB Type A ปกติจะเป็น 3.0 หรือ 3.1 เป็นหลัก ซึ่งจะมีความเร็วอยู่ที่ 4.8-5 Gbps นอกเหนือจากนั้นยังมี USB 3.1 type C และ Thunderbolt 3 ที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูง มีความเร็วในการส่งไฟล์ที่เร็วกว่า USB 3.0 ธรรมดา และสามารถจ่ายไฟได้มากกว่า USB ปกติอีกด้วย ซึ่งพอร์ตพวกนี้จะมากับอุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ หรือในระดับ Hi-End โดยเฉพาะ

7. การเชื่อมต่อไร้สาย

โน๊ตบุ๊คทุกรุ่นก็จะมีการเชื่อมต่อไร้สายอยู่แล้ว ทั้งในส่วนของ Bluetooth และ WiFi ส่วนใหญ่จะใช้ WiFi ที่ไว้ใช้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบไร้สาย บางรุ่นจะเป็นแบบ Single Band หรือ Dual Band ซึ่งแบบ Dual Band จะสามารถรับ-ส่งสัญญาณได้ดีว่า ปัจจุบันโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่จะมีมาตรฐานเป็นแบบ 802.11 AC ซึ่งสามารถรองรับการเชื่อมต่อที่ความถี่ 5 Ghz ความเร็วสูงได้นั่นเองแถมมีช่องสัญญาณที่เยอะกว่า 2.4 Ghz มากเลยทีเดียว รวมถึง Bluetooth จะเป็นมาตรฐาน 5.0 ด้วยเช่นกัน

8. Warranty

ประกันเครื่องโดยทั่วไปสินค้าประเภทไอทีจะมีประกันเครื่องในกรณีเสียหรือชำรุดเริ่มต้นที่ 1 ปี และบางรุ่นอาจสูงถึง 3 ปีก็เป็นได้

*เกร็ดน่ารู้ อย่าลืมอ่านเงื่อนไขประกันเพราะความเสียของโน๊ตบุ๊คบางกรณีก็อยู่นอกเหนือการรับประกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก Advice, NOTEBOOKSPEC